เมื่อประมาณ 2,600 ปีก่อน มีชายชาวกรีกโบราณผู้หนึ่ง ได้แต่งนิทานดี ๆ เอาไว้มากมาย โดยเรื่องราวเหล่านั้น ก็ยังได้รับการเล่าขานต่อมา จนในปัจจุบันนี้ เรารู้จักกันในชื่อ “นิทานอีสป”

นิทานเรื่องหนึ่งที่โด่งดังมาก ก็คือเรื่อง “กระต่ายกับเต่า” ที่เป็นการแข่งวิ่งกัน ระหว่างกระต่ายและเต่า

ซึ่งสุดท้ายแล้ว เต่าผู้เชื่องช้าที่ดูจะเสียเปรียบ กระต่ายผู้แสนว่องไว กลับเป็นฝ่ายชนะ

เรื่องนี้ได้สอนบทเรียนที่สำคัญมาก นั่นคือ แม้กระต่ายจะวิ่งเร็วกว่าเต่าแบบเทียบไม่ติด แต่ถ้าใช้ชีวิตอย่างประมาท ไม่ระมัดระวังให้ดี สุดท้ายก็กลายเป็นผู้แพ้

และในขณะเดียวกัน ฝั่งเต่าที่เสียเปรียบ แต่อาศัยความมุมานะ อดทน ทำความเพียรอย่างสม่ำเสมอ และเดินไปบนหนทางที่ถูกต้อง ในท้ายที่สุดแล้ว ก็กลายเป็นผู้ชนะได้

และบทเรียนนี้ ก็สามารถนำมาปรับใช้ได้กับทุกด้านของชีวิตเลย ไม่พ้นแม้กระทั่งเรื่องของการลงทุน

ซึ่ง ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เป็นต้นแบบการลงทุนแบบเน้นคุณค่าของชาวไทย ก็มีหลักคิดการลงทุน ที่ได้รับแรงบันดาลใจ มาจากนิทานเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

หลักการลงทุนที่ว่า ก็คือ “ลงทุนแบบเต่า” ซึ่งเป็นแนวคิดการลงทุน เพื่อให้เงินของเรา แม้จะไม่ได้เติบโตเร็วมาก แต่สามารถเติบโตแบบทบต้น ไปได้ยาวนาน ในอีกหลาย ๆ ปี

หากสงสัยว่าแล้วหลักการนี้ มีอะไรบ้าง ?

MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ

หลักการลงทุนแบบเต่า สามารถสรุปออกมาได้เป็น 4 ข้อ

1. บริษัทต้องมีความแข็งแกร่ง

คุณสมบัติข้อแรกของหลักการลงทุนแบบเต่าก็คือ การมองหาหุ้นของบริษัท ที่มีความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน

บริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน มักจะทำธุรกิจต่อเนื่องไปได้ในระยะยาว

แม้ในช่วงที่เจอกับเหตุการณ์วิกฤติ เช่น เศรษฐกิจตกต่ำ หรือปัญหาสงคราม บริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน ก็มักจะสามารถผ่านพ้นเหตุการณ์เหล่านี้ไปได้

เปรียบเสมือนเต่า ที่เมื่อเจอปัญหา ก็สามารถหดตัวเข้าไปซ่อนอยู่ในกระดองได้ นั่นเอง

2. บริษัทต้องเติบโตอย่างมั่นคง

ต่อมาก็คือ การมองหาบริษัทที่มีการเติบโตต่อไปได้อย่างมั่นคง

โดยในโลกนี้มีบริษัทอยู่มากมาย ที่ในช่วงสั้น ๆ สามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด แต่พอถึงจุดหนึ่ง ก็ไม่สามารถรักษาผลประกอบการระดับนั้นไว้ได้อีก

ผลประกอบการที่เคยดูดีมาก สุดท้ายก็ตกต่ำลง บริษัทแบบนี้ จะไม่ผ่านเกณฑ์หลักการลงทุนแบบเต่า

ดังนั้น บริษัทที่เรามองหา จึงต้องมีการเติบโตในระยะยาวอย่างมั่นคง โดยต้องเติบโตไม่น้อยกว่า 7-8% ต่อปี

ส่วนบริษัทที่มีคุณภาพการเติบโตดีมาก โดย ดร.นิเวศน์ เรียกว่า “ซูเปอร์เต่า” จะต้องเติบโตได้อย่างน้อย 15-20% ในอีก 5 ปีข้างหน้าได้

นอกจากนี้ ดร.นิเวศน์ ยังแนะนำไว้ว่า ควรระมัดระวัง บริษัทที่เคยเติบโตได้ถึง 30-40% ต่อปี เพราะเป็นเรื่องยากมาก ที่บริษัทจะรักษาการเติบโตในระดับนั้นได้ต่อไป

เพราะหุ้นแบบเต่า โดยปกติแล้ว จะไม่ได้เติบโตเร็วมากขนาดนั้น

3. ลงทุนอย่างช้า ๆ ค่อยเป็นค่อยไป

พอได้หุ้นที่ผ่านเกณฑ์แล้ว ขั้นต่อมาก็คือ การควบคุมตัวเราเอง ให้ทำตามแผนการลงทุนต่อไป โดยไม่ให้ซื้อ ๆ ขาย ๆ หุ้น บ่อยจนเกินไป

ซึ่งทาง ดร.นิเวศน์ แนะนำว่า นักลงทุนเอง ก็ควรทำตัวให้คล้ายเต่าเช่นกัน ด้วยการเน้นถือหุ้นของกิจการดี ๆ ที่จะเติบโตได้อย่างมั่นคงไปยาว ๆ โดยไม่ต้องพยายามไปทำอะไรมาก

4. รักษาสุขภาพให้ดี เพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยาวนาน

หลายคนอาจจะเคยคิดว่า เราควรจะต้องมีเงินลงทุนตั้งต้นเยอะ ๆ หรือทำผลตอบแทนจากการลงทุนเฉลี่ยต่อปี ให้ได้เยอะ ๆ ก็น่าจะทำให้เรารวยมากได้

แต่จริง ๆ แล้ว ปัจจัยอย่างเรื่องระยะเวลาในการลงทุน ก็มีความสำคัญมาก ไม่แพ้กันเลย

นั่นจึงนำมาสู่หลักการลงทุนแบบเต่าข้อสุดท้าย คือการพยายามรักษาสุขภาพของตัวเราเองให้ดี

เพราะถ้าเรามีสุขภาพดี มีอายุยืน ก็จะทำให้เรามีระยะเวลาการลงทุนที่ยาวนาน และหากเราอยู่ได้ยาวนานพอ เงินลงทุนของเรา ก็มีโอกาสจะเติบโตแบบทบต้นได้มากขึ้น ๆ

ซึ่งเรื่องราวมหัศจรรย์ของการทบต้น ก็มีให้เห็นอยู่เหมือนกัน จากชีวิตของคุณปู่ Warren Buffett ตำนานนักลงทุนเอกของโลก

โดยเราอาจจะเคยรู้กันมาบ้างว่า คุณ Buffett เริ่มต้นลงทุนมาตั้งแต่อายุ 11 ปี แต่จริง ๆ แล้ว ความมั่งคั่งกว่า 99% ของเขาในปัจจุบันนี้ กลับเริ่มต้นหลังจากเขาอายุ 50 ปีเป็นต้นไป

นี่คือมหัศจรรย์ของการทบต้น เพราะถ้าเรามีระยะเวลาในการทบต้นได้นาน ความมั่งคั่งของเราก็จะเพิ่มพูนขึ้น ๆ เหมือนกับการกลิ้งลูกบอลหิมะ

ที่เริ่มต้นจากลูกเล็ก ๆ แต่พอกลิ้งไปเรื่อย ๆ

สักวัน ลูกบอลหิมะลูกนี้ ก็จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นมาก

อ่านมาถึงตรงนี้ ก็เชื่อว่า แนวคิดการลงทุนแบบค่อย ๆ เดินไปเรื่อย ๆ อย่างคุณเต่านี้ คงจะเป็นประโยชน์ต่อพวกเราอยู่บ้าง

จริง ๆ แล้ว หลักคิดการลงทุนแบบนี้ ก็เป็นแนวทางที่ ดร.นิเวศน์ ใช้มาตลอด ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม

เพราะนับตั้งแต่วันแรก คือเมื่อประมาณ 30 ปีก่อน ที่ ดร.นิเวศน์ เริ่มเป็นนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าอย่างจริงจัง จนถึงวันนี้ 

แนวทางการลงทุนแบบเต่า เพื่อสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน ก็ยังเป็นหลักการที่ ดร.นิเวศน์ ให้ความสำคัญอยู่เช่นเดิม..

#ลงทุน

#หลักการลงทุน

#ชนะอย่างเต่า

Reference

- หนังสือ ชนะอย่างเต่า (2560) โดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

—

มาร่วมรับฟังประสบการณ์และปรัชญาการลงทุน ที่ตกผลึกได้มาทั้งชีวิตได้ที่

งานสัมมนา "BEAT THE MARKET” งานสัมมนาใหญ่แห่งปีของลงทุนแมน

วันเสาร์ที่ 26 เมษายน 2568 10:30 - 18:00

สถานที่: IMAX, Paragon Cineplex (Siam Paragon)

รายละเอียดในคอมเมนต์