ก่อนเกิดวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540 GDP ประเทศไทย เคยเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 7%

ก่อนเกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ในปี 2551 GDP ไทย ก็เคยเติบโตเฉลี่ยที่ 5%

ก่อนเกิดวิกฤติโรคระบาดในปี 2563 GDP ไทย ก็เคยเติบโตเฉลี่ยที่ 3%

จะเห็นว่าหลังวิกฤติต่าง ๆ เกิดขึ้น GDP ไทยเติบโตลดลงเรื่อย ๆ แต่ล่าสุด GDP ไทยตอนนี้ กำลังเติบโตเฉลี่ยที่ 2% และคาดการณ์กันไว้ว่า ต่อไปจะโตได้ต่ำกว่านี้อีก..

จากบทวิเคราะห์ล่าสุดของ KKP Research บอกเราว่า เศรษฐกิจไทย และคนไทย กำลังอยู่ในช่วงน่าเป็นห่วงมากแล้วจริง ๆ หากไม่เร่งแก้ไขปัญหานี้โดยเร็ว

แล้วรายละเอียดของบทวิเคราะห์นั้นมีอะไรบ้าง

MONEY LAB จะย่อยให้เข้าใจง่าย ๆ ใน 6 ข้อ

1. การเติบโตของเศรษฐกิจไทย จะต่ำกว่า 2% ถ้าไม่มีการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างอย่างจริงจัง โดยได้มีการประมาณการไว้ว่า ในช่วงปี 2563 ถึง 2572 นี้ เศรษฐกิจไทยมีศักยภาพที่จะเติบโตเพียงแค่ 1.9% 

และในช่วงปี 2573 ถึง 2582 หรือในช่วง 10 ปีข้างหน้า ศักยภาพในการเติบโตของประเทศไทย จะอยู่แค่ 1.3% เท่านั้น

2. ปัจจัยแรกที่ทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตช้า มาจากมีคนทำงานน้อยลง เพราะประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคมสูงวัย 

โดยมีประชากรอายุมากกว่า 65 ปี เพิ่มขึ้นมาตลอด คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 20% ในปัจจุบัน สวนทางกับคนในวัยทำงานที่มีน้อยลง แถมเด็กเกิดใหม่ก็ลดลงด้วย

ทำให้นอกจากแรงงานจะลดลงแล้ว ยังทำให้กำลังซื้อในประเทศหดตัวด้วย จากการที่ประชากรลดลงเรื่อย ๆ 

3. ประเทศไทยขาดการลงทุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน ที่เพียงพอ ซึ่งเป็นผลมาจาก การสะสมทุนที่น้อยลงเรื่อย ๆ หลังจากเกิดวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540

4. ปัจจุบัน ประเทศไทยมีปัญหาหนี้สิน ทั้งหนี้ครัวเรือนและหนี้ภาคเอกชนที่สูงขึ้น คุณภาพหนี้ด้อยลง

แถมยังใช้นโยบายการเงินตึงตัวเพื่อแก้ปัญหาหนี้ และธนาคารเองก็เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อด้วย

ทั้งหมดนี้ ทำให้โอกาสที่จะขยายการลงทุนในเศรษฐกิจไทย น้อยลงไปด้วย

5. Productivity หรือ ความสามารถในการผลิตของแรงงานไทย ลดน้อยลง โดยมีอยู่ 3 ปัจจัยหลัก ที่ทำให้ Productivity ของไทยลดลง

- แรงงานในภาคบริการไทยเพิ่มขึ้น ส่วนแรงงานในภาคการผลิตไทยลดลง แต่ Productivity ของภาคบริการไทย กลับต่ำกว่าภาคการผลิต

- คุณภาพการศึกษาไทยแย่ลง สะท้อนจากคะแนนสอบ PISA ที่น้อยลงมาตลอด เรื่องนี้ส่งผลต่อปัญหาด้านคุณภาพของแรงงานไทย

- ประเทศไทยขาดการลงทุน จากทั้งธุรกิจในประเทศ และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ

นอกจากนี้ ก็ยังไม่มีนโยบายที่จะช่วยสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ และการเพิ่ม Productivity ของคนทำงานด้วย

6. KKP Research มีข้อเสนอว่า หากอยากให้เศรษฐกิจไทยกลับมาเติบโตได้ดีอีกครั้ง ทางภาครัฐควรเร่งปฏิรูปใน 4 ด้าน

- ปฏิรูปการศึกษา, ทบทวนนโยบายใหม่ เพื่อดึงดูดแรงงานทักษะสูง และทำนโยบายส่งเสริมการแข่งขัน ลดการผูกขาด

- เปิดเสรีในภาคบริการ เพื่อเพิ่มการแข่งขัน เพราะเป็นภาคเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของไทย รวมถึงลดข้อบังคับบางอย่างที่เป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจ

- เพิ่ม Productivity ในภาคการเกษตร เพราะเป็นภาคที่มี Productivity ต่ำที่สุด แต่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยมาก

- แก้ปัญหาด้านการคลัง เร่งปฏิรูปนโยบายภาษีใหม่

จากทั้งหมด 6 ข้อข้างต้น เราก็คงสามารถสรุปได้สั้น ๆ ง่าย ๆ ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเรื่องปัญหาเชิงโครงสร้าง ที่ถูกยกขึ้นมาพูดถึงบ่อย ๆ หลายต่อหลายครั้งแล้ว

แม้เวลาจะผ่านมา ไม่ว่าจะกี่ปีก็ตาม ประเด็นนี้ก็ยังถูกพูดถึงอยู่เรื่อย ๆ

ก็เป็นที่น่าติดตามกันต่อไปว่า วันที่เรื่องเหล่านี้ได้รับการแก้ไข จนเราไม่ต้องกลับมาพูดถึงเรื่องนี้กันอีก จะเกิดขึ้นเมื่อไร..

#เศรษฐกิจ 

#เศรษฐกิจไทย

#KKPResearch

Reference:

- KKP Research เศรษฐกิจไทยสู่ยุคโตต่ำ 2%