สรุป 5 ข้อ เทรนด์การลงทุนโลก ที่น่าสนใจ จากงานสัมมนา Know The Markets Summit 2024

สรุป 5 ข้อ เทรนด์การลงทุนโลก ที่น่าสนใจ จากงานสัมมนา Know The Markets Summit 2024

1 พ.ย. 2024
KAsset x MONEY LAB
สถานการณ์ของตลาดการลงทุนทั้งโลก ทั้งในตอนนี้ และในปีข้างหน้านั้น ยังคงเต็มไปด้วยความเสี่ยง และความไม่แน่นอนมากมาย
แต่อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงนั้น ก็ย่อมมาพร้อมกับผลตอบแทนเสมอ ถ้าหากเรามองหาโอกาสการลงทุนให้เจอ และเข้าลงทุนอย่างชาญฉลาด
ซึ่งทาง บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด หรือ KAsset ก็ได้จับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลกอย่าง J.P. Morgan Asset Management หรือ JPMAM
ได้ร่วมกันจัดงานสัมมนา Know The Markets Summit 2024: Shaping The Future นำทีมโดยเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนระดับโลกจาก JPMAM มาผสานความชำนาญการลงทุนในประเทศกับ KAsset
มาแบ่งปันมุมมอง เกี่ยวกับภาพรวมของโลกการลงทุนในปีหน้า ถึงที่ประเทศไทยเลยทีเดียว
แล้วมีอะไรน่าสนใจจากงานนี้ ที่นักลงทุนชาวไทยอย่างเราควรรู้บ้าง ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
1. สหรัฐฯ Soft Landing ส่วนจีนเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ
ในปีหน้า เศรษฐกิจจีน ยังคงโดนกดดันจากความเสี่ยงใหญ่ก็คือ การชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ เป้าหมายของรัฐบาลจีนต่อจากนี้ จึงเป็นการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านทั้งนโยบายการเงินและการคลัง เพื่อสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ ให้กลับมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนอีกครั้ง
และเมื่อข้ามฟากมายังเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง จะค่อนข้างผ่อนคลายลง เพราะการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed ในครั้งนี้ น่าจะช่วยให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ชะลอการเติบโตลงอย่างช้า ๆ แทน หรือที่เรียกว่า Soft Landing
นอกจากนี้ หุ้นประเทศตลาดเกิดใหม่ เช่น อินเดีย, เวียดนาม และไทย ก็ยังน่าสนใจ อย่างไรก็ตามคุณวิน พรหมแพทย์ ประธานกรรมการบริหารของ KAsset ก็ได้แนะนำให้จัดพอร์ตโฟลิโอแบบ Core-Satellite จากความไม่แน่นอนในเรื่องของการเลือกตั้งสหรัฐฯ และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่

2. เทคโนโลยี AI กำลังสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ ในหุ้นเทคโนโลยี
ในเวลากว่า 40 ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าเรามีเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก ที่สร้างขาขึ้นรอบใหญ่ในหุ้นเทคโนโลยีอยู่เสมอ ไล่ตั้งแต่ เทคโนโลยี Mainframe, Personal Computer, อินเทอร์เน็ต, Smartphone และ Cloud ตามด้วยเทคโนโลยี AI ตั้งแต่ช่วงปี 2020 เป็นต้นมา
แต่เหตุผลที่ทำให้ขาขึ้นในรอบนี้ ดูเหมือนจะใหญ่ที่สุดนั้น ก็เพราะว่า เทคโนโลยี AI นั้น มีแนวโน้มที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจที่มากกว่าเทคโนโลยีอื่น ๆ รวมไปถึงลดต้นทุนให้กับธุรกิจอย่างมหาศาล และยังมีการนำไปใช้ หรือ Adoption ที่รวดเร็วยิ่งกว่าทุกเทคโนโลยีด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาหุ้นที่เกี่ยวกับ AI พากันวิ่งขึ้นอย่างร้อนแรงแบบในปัจจุบันนี้ หลายคนก็อาจจะเริ่มกังวลถึงความเสี่ยงว่า กระแส AI ในตอนนี้ จะก่อให้เกิดฟองสบู่ยักษ์ใหญ่ในหุ้นเทคโนโลยี แบบช่วงฟองสบู่ Dot-Com หรือไม่
ถึงอย่างนั้น กระแส AI ในตอนนี้มีจุดต่างจากฟองสบู่ Dot-Com พอสมควร เช่น การที่บริษัทเทคโนโลยีในตอนนี้ มีสถานะทางการเงินค่อนข้างแข็งแกร่ง กว่าบริษัทเทคโนโลยีในอดีต อีกทั้งในเวลาไม่กี่ปี ตัวเทคโนโลยี AI เอง ได้แสดงให้เห็นถึงมูลค่าทางเศรษฐกิจที่จะตามมาอย่างมหาศาลในอนาคต
ทำให้ทาง JPMAM มองว่าขาขึ้นของหุ้นเทคโนโลยีในรอบนี้ กำลังขึ้นโดยมีปัจจัยพื้นฐานรองรับ มากกว่าที่จะเป็นฟองสบู่
3. เลือกตั้งประธานาธิบดี ไม่ได้กระทบแค่หุ้นสหรัฐฯ แต่สะเทือนไปทั่วโลก
นโยบายของทาง Democrat จะเน้นแก้ปัญหา ด้วยการเก็บภาษีบริษัทขนาดใหญ่ให้มากขึ้น รักษาสถานะทางการค้ากับจีนเหมือนเดิม และส่งเสริมพลังงานสะอาด
ในขณะเดียวกันฝั่ง Republican จะเน้นแก้ปัญหา ด้วยการลดภาษีลง ทั้งสำหรับประชาชนและบริษัท พร้อมทั้งขึ้นกำแพงภาษีกับสินค้าจากจีน เพื่อปกป้องตลาดในประเทศ และกลับมาส่งเสริมการขุดเจาะน้ำมันอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ทาง JPMAM ก็มองว่าผลการเลือกตั้งของสหรัฐฯ นั้น ส่วนใหญ่กระทบตลาดหุ้นสหรัฐฯ แค่ในระยะสั้นเพียงเท่านั้น แต่นโยบายทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะส่งผลกับทั้งโลก โดยเฉพาะนโยบายด้านการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ได้เห็นแล้ว จากการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน
เพราะฉะนั้น นอกจากจะโฟกัสไปที่เรื่องความเสี่ยงแล้ว เราก็ควรมองหาโอกาสการลงทุน ในตลาดของประเทศอื่น ๆ ที่น่าจะได้ประโยชน์ จากนโยบายทางด้านการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ เช่น เหล่าประเทศในอาเซียน
4. การจัดพอร์ตการลงทุนแบบ 60/40 กำลังถูกท้าทาย
การจัดพอร์ตการลงทุนแบบ 60/40 ซึ่งก็คือลงทุนหุ้น 60% และตราสารหนี้ 40% ถือเป็นวิธีการจัดพอร์ตการลงทุนแบบเรียบง่าย ที่ใช้กันมาอย่างยาวนาน
อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้ ผลตอบแทนของหุ้นและตราสารหนี้ หลายครั้งก็วิ่งไปในทิศทางเดียวกัน จนทำให้พอร์ตของเราขาดทุนมากกว่าที่ควร เพราะฉะนั้น เราอาจจะต้อง Active มากขึ้น ในการบริหารพอร์ตการลงทุนของเรา รวมถึงลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกอื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อลดความผันผวน และเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน
โดยสินทรัพย์ทางเลือกน่าสนใจ ที่เราควรจะมีไว้ติดพอร์ตในช่วงนี้ ก็อย่างเช่น หุ้นและสินเชื่อนอกตลาด หรือ Private Equity และ Private Credit ที่ปัจจุบันนี้ในตลาดรอง มีสินทรัพย์คุณภาพดี ที่ขายในราคาถูกอยู่เต็มไปหมด
ส่วนธุรกิจอย่างเช่น โครงสร้างพื้นฐาน และการขนส่ง ก็น่าสนใจเช่นเดียวกัน เพราะด้วยความเป็นธุรกิจที่ผู้คนทั่วโลกจำเป็นต้องใช้ ทำให้ความผันผวนค่อนข้างต่ำ แถมมีกระแสเงินสดมั่นคง
และนอกจากนี้ก็ยังมีธีมการลงทุนที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น เทคโนโลยี AI, กองทุนสินทรัพย์นอกตลาดกึ่งสภาพคล่อง หรือ Semi-Liquid Funds และอุตสาหกรรม Healthcare
5. จัดพอร์ตแบบ Core-Satellite เพิ่มโอกาสสร้างกำไร ไปกับเทรนด์โลก
แนวคิดการจัดพอร์ตการลงทุนแบบ Core-Satellite นั้น ก็คือการแบ่งพอร์ตของเราออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ Core ซึ่งเน้นการลงทุนในระยะยาว และผันผวนต่ำ คิดเป็นประมาณ 80% ของพอร์ตการลงทุนทั้งหมด โดยทาง KAsset เอง ก็มีซีรีส์กองทุนรวมผสมอย่าง K-WealthPLUS ที่จะมาใส่ในพอร์ต Core ให้กับเราได้
ส่วนพอร์ตการลงทุนแบบ Satellite จะเน้นไปที่การลงทุนในระยะสั้น ซึ่งความผันผวนสูง แต่โอกาสสร้างผลตอบแทนก็มากขึ้นตาม โดยคิดเป็นอีกประมาณ 20% ของพอร์ตการลงทุนทั้งหมด โดยในส่วนนี้ทาง KAsset ก็แนะนำเป็นกองทุนหุ้นประเทศตลาดเกิดใหม่ รวมไปถึงสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น หุ้นประเทศตลาดพัฒนาแล้ว ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ อีกด้วย
เพราะแนวโน้มเงินเฟ้อที่ลดลงของสหรัฐฯ จะทำให้อัตราดอกเบี้ยทั้งสหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกปรับลดลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งหุ้น และตราสารหนี้ รวมไปถึงการที่ความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ และสงครามการค้า จะยังส่งผลดี ต่อหุ้นประเทศตลาดเกิดใหม่ ที่ส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ในสถานการณ์นี้ อย่างเช่น อินเดีย เวียดนาม และไทย นั่นเอง

จากทั้งหมดนี้เองจะเห็นได้ว่า มุมมองของผู้เชี่ยวชาญจาก JPMAM รวมไปถึง KAsset เอง ค่อนข้างน่าสนใจ และน่าจะทำให้เราได้เห็นภาพเทรนด์การลงทุนของโลก ได้ชัดเจนขึ้นมากเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม เหล่าผู้เชี่ยวชาญจาก JPMAM จะไม่ได้มอบมุมมองให้กับนักลงทุนไทย เพียงแค่ในงานนี้เท่านั้น
แต่ยังมีการให้มุมมองทางด้านการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ผ่านสุดยอดคัมภีร์การลงทุน Know The Markets นั่นเอง..
สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมต่อได้ที่ https://www.kasikornbank.com/k_3C5a5Yo ได้เลย
- โฆษณาของ บลจ.กสิกรไทย นี้อาจอ้างอิงข้อมูลที่ J.P. Morgan Asset Management เผยแพร่โดยทั่วไป มิได้จัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะหรือเป็นการให้คำแนะนำการลงทุน
- ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ข้อมูลเพิ่มเติม www.kasikornasset.com
#KAsset #JPMAM #KAssetxJPMAM #KnowTheMarkets #เรื่องกองทุนคุณเชื่อได้ #คำตอบที่ใช่ของการลงทุน
Tag: KAsset
© 2024 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.