หากพูดถึงบริษัท Berkshire Hathaway ก็ต้องนึกถึงคุณ Warren Buffett ตำนานนักลงทุนของโลก ที่ดูแลบริษัทนี้มานานกว่า 60 ปี

อาจจะพูดได้ว่า ทั้ง 2 ชื่อนี้ เป็นเหมือนดังเงาของกันและกันก็ได้

ในปัจจุบันนี้ ก็คงไม่มีนักลงทุนคนไหน ที่ไม่ทราบถึงความยิ่งใหญ่ของ Berkshire Hathaway บริษัทที่มีราคาหุ้น หุ้นละ 22 ล้านบาท หรือถ้าเทียบกันง่าย ๆ ก็คือหุ้น 1 หุ้น ราคาเท่าบ้านหรู 1 หลังเลยทีเดียว

และ Berkshire Hathaway ก็เป็นบริษัทหนึ่ง ที่เราสามารถลงทุนได้ผ่านเครื่องมือ DRx ที่เทรดอยู่ในตลาดหุ้นไทย โดย DR ของ Berkshire Hathaway ชื่อว่า BRKB80X

แต่เคยรู้มาก่อนหรือไม่ว่า กว่าที่โชคชะตาของทั้ง 2 จะมาบรรจบกัน เกิดอะไรขึ้นมาบ้าง และตำนานที่ทั้ง 2 ได้สร้างร่วมกันหลังจากเจอกันแล้ว เป็นอย่างไร ?

MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ

จุดเริ่มต้นของ Berkshire Hathaway ต้องย้อนกลับไป เมื่อเกือบ 200 ปีก่อน ตั้งแต่ก่อนที่คุณ Warren Buffett จะเกิดเสียอีก

ในปี 1839 ที่รัฐโรดไอแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา โรงงานทอผ้าแห่งหนึ่งได้ถือกำเนิดขึ้น ภายใต้ชื่อบริษัท Valley Falls Company

ซึ่งหลังจากนั้น บริษัทแห่งนี้ก็มีการควบรวมกับบริษัทอื่นอีกหลายครั้ง จนในปี 1955 บริษัทได้เปลี่ยนชื่อเป็น Berkshire Hathaway

แม้เวลาจะผ่านมาเป็น 100 ปี บริษัทแห่งนี้ก็ทำธุรกิจสิ่งทอมาตลอด แต่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญเกิดขึ้นในปี 1962

เมื่อมีผู้จัดการกองทุนหนุ่มคนหนึ่ง จากเมืองโอมาฮา เริ่มซื้อหุ้นของบริษัท

และในปี 1965 เขาคนนี้ก็มีอำนาจควบคุมบริษัทได้อย่างเบ็ดเสร็จ..

นั่นก็คือคุณ Warren Buffett ที่ทุกวันนี้พวกเรารู้จักกันในฐานะ “นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก” นั่นเอง

Berkshire Hathaway ภายใต้การนำของคุณ Buffett ได้เปลี่ยนโฉมไปตลอดกาล จากบริษัทสิ่งทอที่ธุรกิจกำลังซบเซา กลายมาเป็นบริษัทโฮลดิง ที่เน้นลงทุนในบริษัทอื่น

โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ จะขอสรุปเหตุการณ์สำคัญ ๆ ของบริษัทและคุณ Buffett ออกมาดังนี้

- ปี 1967 บริษัทเริ่มเข้าไปลงทุนในธุรกิจประกันภัย โดยซื้อบริษัท National Indemnity Company และ National Fire & Marine Insurance Company

การลงทุนในธุรกิจประกันภัย เป็นท่าที่คุณ Buffett ใช้อยู่เป็นประจำ เพราะธุรกิจประเภทนี้จะมีสิ่งที่เรียกว่า “Float”

Float ก็คือ เบี้ยประกันรับล่วงหน้า ที่ยังไม่ได้ถูกผู้ทำประกันเคลม โดยเป็นเงินสดที่มักจะไหลเข้ามาในบริษัทอยู่เสมอ เพราะลูกค้าจะต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว

ซึ่งเงินเหล่านี้ก็ไม่รู้ว่า ลูกค้าจะมาเคลมประกันตอนไหน หรืออาจจะไม่เคลมเลยก็ได้ ทำให้บริษัทประกันภัยสามารถนำเงินสดเหล่านี้ ไปลงทุนต่อยอดได้

การมี Float เยอะ ๆ ก็เปรียบเสมือนมีกระแสเงินสดอันมหาศาล ไหลเข้าบริษัททุกปี เพื่อให้คุณ Buffett เอาไปลงทุนได้เรื่อย ๆ นั่นเอง

- ปี 1969 หยุดการลงทุนเพิ่มในธุรกิจสิ่งทอ

- ปี 1976 เริ่มซื้อหุ้นบริษัทประกันภัยชื่อ GEICO โดยในตอนนั้น GEICO กำลังเจอปัญหาด้านการเงิน

ในระหว่างปี 1976-1995 บริษัทซื้อหุ้นของ GEICO มาโดยตลอด จนถือหุ้นในสัดส่วน 51% และในปี 1996 บริษัทก็ซื้อหุ้นในส่วนที่เหลือของ GEICO ทั้งหมด

ปัจจุบัน GEICO เป็นบริษัทประกันภัยรถยนต์ ใหญ่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของสหรัฐอเมริกา

- ปี 1985 ปิดธุรกิจสิ่งทอที่ทำมา 146 ปี อย่างถาวร

- ปี 1988 เริ่มซื้อหุ้น Coca-Cola

- ปี 2003 คุณ Warren Buffett กลายเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก จากการจัดอันดับของ Forbes

- ปี 2006 คุณ Warren Buffett ประกาศบริจาคทรัพย์สินส่วนใหญ่ ซึ่งก็คือหุ้น Berkshire Hathaway ให้กับมูลนิธิ Bill & Melinda Gates

- ปี 2010 ซื้อบริษัท Burlington Northern Santa Fe Railway ธุรกิจรถไฟที่มีเครือข่ายรางรถไฟ ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศสหรัฐอเมริกา

- ปี 2016 เริ่มซื้อหุ้นบริษัท Apple ในจำนวนมาก โดยในตอนนั้น หุ้น Apple มี P/E Ratio ที่ประมาณ 13 เท่า เท่านั้น

- ปี 2021 ประกาศว่า คุณ Greg Abel จะมาเป็น CEO คนต่อไป เมื่อคุณ Buffett วางมือลง

- ปี 2024 คุณ Buffett บริจาคหุ้น Berkshire Hathaway มูลค่ากว่า 191,000 ล้านบาท ให้กับองค์กรการกุศล ซึ่งครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่บริจาคมากที่สุด

ซึ่งถ้าหากนับตั้งแต่ปี 2006 คุณ Buffett ก็บริจาคเงินไปแล้วกว่า 2,000,000 ล้านบาท

ทั้งหมดนี้ ก็คือตำนานของ Berkshire Hathaway จากโรงงานทอผ้า สู่มหาจักรวรรดิด้านการลงทุน ที่มีชายผู้อยู่เบื้องหลัง คือคุณ Warren Buffett

ตำนานนักลงทุน ผู้กลายเป็นมหาเศรษฐี ที่รวยเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกติดต่อกันหลายปีได้ ผ่านการลงทุนในตลาดหุ้น

โดยนับตั้งแต่ปี 1965 จนถึงปัจจุบัน การลงทุนในหุ้น Berkshire Hathaway ให้ผลตอบแทนสูงถึง 4,384,748%

หรือคิดเป็นผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้น 19.8% ต่อปี..

หมายเหตุ: บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้นำ ให้ซื้อหรือขายหุ้นเหล่านี้ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน ก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง

#ลงทุน 

#DRx

#สรุปDRวันละตัว 

References

-https://www.longtunman.com/17256

-https://www.lhfund.co.th/Home/InvestPerspectiveDetail/detail-154-Value-Investor-

-https://www.finnomena.com/park-kathawut/lifelong-warren-buffett/

-https://www.longtunman.com/394

-https://apnews.com/buyline-personal-finance/article/largest-car-insurance-companies

-Berkshire Hathaway Shareholder’s Letter ปี 2023

-หนังสือ The Snowball: Warren Buffett and the Business of Life (2009) โดย Alice Schroeder

-หนังสือ Tap Dancing to Work: Warren Buffett on Practically Everything, 1966-2012: A Fortune Magazine Book (2012) โดย Carol J. Loomis

-หนังสือ Buffett: The Making of an American Capitalist (2008) โดย Roger Lowenstein