กรณีศึกษา เสี่ยยักษ์ ทำกำไรจากการลงทุน อสังหาริมทรัพย์ 2,000 ล้านบาท | MONEY LAB
หลายคนน่าจะรู้จัก คุณวิชัย วชิรพงศ์ หรือ เสี่ยยักษ์ ในฐานะเซียนหุ้นของไทย ที่เริ่มลงทุนจากเงิน 2.5 ล้านบาท เมื่อ 36 ปีก่อน จนประสบความสำเร็จ มีพอร์ตระดับหลายพันล้านบาทในปัจจุบัน
กรณีศึกษา เสี่ยยักษ์ ทำกำไรจากการลงทุน อสังหาริมทรัพย์ 2,000 ล้านบาท
1 ก.ย. 2023
แต่รู้หรือไม่ว่า นอกจากจะลงทุนหุ้นแล้ว เสี่ยยักษ์เองก็เป็นนักลงทุนอสังหาฯ มาหลายปีด้วยเช่นกัน
โดยการลงทุนครั้งหนึ่งของเสี่ยยักษ์ สามารถทำกำไรได้เกือบ 2,000 ล้านบาท เลยทีเดียว
แล้ว เรื่องการลงทุนอสังหาฯ ดังกล่าวของเสี่ยยักษ์ มีความเป็นมาอย่างไร ?
MONEY LAB จะเล่าเรื่องการเงิน ที่โรงเรียนไม่เคยสอนให้เข้าใจ
MONEY LAB จะเล่าเรื่องการเงิน ที่โรงเรียนไม่เคยสอนให้เข้าใจ
จุดเริ่มต้นการลงทุนอสังหาฯ ของเสี่ยยักษ์ เกิดจากช่วงที่ลงทุนในตลาดหุ้น จนสามารถมีพอร์ตระดับ 100 ล้านบาท ได้แล้ว
ในตอนนั้น เสี่ยยักษ์เริ่มรู้สึกว่า ต้องกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนมากขึ้น เพราะคิดว่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์อย่างเดียว มีความเสี่ยงเกินไป
นอกจากนี้ ตัวเสี่ยยักษ์เอง ก็มีความฝันที่อยากจะมีบ้านริมทะเล จึงเริ่มตระเวนดูที่ดินติดทะเลย่านต่าง ๆ
โดยเสี่ยยักษ์ได้ไปเจอ ที่ดินในอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นที่ดินที่เสี่ยยักษ์มองว่า มีทำเลดี เพราะด้านหนึ่งติดทะเล และอีกด้านติดถนน
แต่ที่ดินดังกล่าว มีราคาอยู่ที่ 21 ล้านบาทต่อไร่ ซึ่งเสี่ยยักษ์มองว่า ราคาแพงเกินไป จึงไม่ได้ซื้อที่ดินผืนนั้น
จนกระทั่งวันหนึ่ง เสี่ยยักษ์ไปเจอที่ดินแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง ที่มีราคาขายไร่ละ 2.5 ล้านบาท โดยที่ดินนี้ มีด้านหนึ่งติดทะเล และมีอีกด้านติดถนน เหมือนที่ดินในปราณบุรี แต่มีราคาถูกกว่ากัน 8 เท่า
เสี่ยยักษ์สนใจที่ดินดังกล่าว และเปรียบการลงทุนในที่ดินครั้งนี้ เหมือนกับการลงทุนในหุ้น โดยหลักการก็คือ
-ให้มองหาที่ดินคุณภาพดี มีศักยภาพเติบโต
ที่ดินดังกล่าวในจังหวัดระยอง ตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพ ซึ่งก็คือมีพื้นที่ด้านหน้าติดทะเล ด้านหลังติดถนนใหญ่ มีหาดทรายละเอียด และไม่มีโขดหินเกะกะ
-เป็นที่ดินที่ยังไม่มีคนสนใจ เพราะเราจะซื้อได้ในราคาที่ไม่แพงมาก
ที่ดินดังกล่าวในจังหวัดระยองนั้น ประกาศขายมา 4 ปีแล้ว และเจ้าของที่ดินก็ลดราคาที่ดินมาโดยตลอด แต่ก็ยังไม่มีคนสนใจ แม้จะเป็นที่ดินที่มีศักยภาพก็ตาม
ในทางตรงกันข้าม คนส่วนใหญ่กลับไปให้ความสนใจกับที่ดินที่มีศักยภาพ ในพื้นที่ที่ได้รับความนิยมสูง จนทำให้ราคาที่ดินในพื้นที่เหล่านั้น ปรับตัวขึ้นไปสูงมากแล้ว
อย่างเช่น หัวหินหรือปราณบุรี ที่มีราคาที่ดินปรับตัวขึ้นไปสูงเป็นระดับสิบ ๆ ล้านบาท
ซึ่งสำหรับที่ดินในจังหวัดระยองนี้ เสี่ยยักษ์มองว่า เป็นที่ดินที่มีศักยภาพ และยังมีราคาที่ถูกมาก อีกทั้งยังสามารถเดินทางมาจากกรุงเทพฯ โดยใช้เวลาไม่นาน
สุดท้ายจึงตัดสินใจซื้อที่ดินผืนนี้มาเป็นจำนวน 56 ไร่ ในราคา 140 ล้านบาท และซื้อที่ดินแปลงข้างเคียง เพิ่มอีก 11 ไร่ อีกประมาณ 90 ล้านบาท
ทำให้ เสี่ยยักษ์เป็นเจ้าของที่ดินดังกล่าว ที่มีขนาดหน้ากว้าง 300 เมตร รวม 67 ไร่ ในราคา 230 ล้านบาท
ปัจจุบัน ผ่านมา 15 ปี ราคาที่ดินผืนนี้ขยับขึ้นมาเกือบ 9 เท่า จากราคาที่เสี่ยยักษ์ซื้อ จนมามีมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท
เท่ากับว่า ถ้าเสี่ยยักษ์ขายที่ดินผืนนี้ในปัจจุบัน ก็จะได้กำไรเกือบ 1,800 ล้านบาท
ซึ่งจากประสบการณ์ของเสี่ยยักษ์นั้น ก็น่าจะสรุปได้ว่า หลักคิดสำคัญในการลงทุนในสินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น หรืออสังหาฯ ก็คือ การเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริง ในจังหวะที่ถูกเวลา นั่นเอง..