สรุป 5 ขั้นตอน การเป็น VI สำหรับมือใหม่ ของ “Yoyoway” คุณสันติ สิงหวังชา - BillionMoney
หลายคนคงเคยเจอปัญหาที่ว่า อยากศึกษาการลงทุนแบบเน้นคุณค่า หรือ VI แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหนดี
สรุป 5 ขั้นตอน การเป็น VI สำหรับมือใหม่ ของ “Yoyoway” คุณสันติ สิงหวังชา
27 มิ.ย. 2023
ซึ่งบทความนี้จะพาไปรู้จักกับแนวทางการศึกษา เพื่อให้เราเป็นนักลงทุนแบบเน้นคุณค่า ที่ดีได้
โดยเจ้าของแนวทางการศึกษานี้ก็คือ หนึ่งในเซียนหุ้นระดับตำนานของไทย
คุณโยโย่ Yoyoway สันติ สิงหวังชา
เซียนหุ้นระดับพันล้าน ผู้ล่วงลับ..
คุณโยโย่ Yoyoway สันติ สิงหวังชา
เซียนหุ้นระดับพันล้าน ผู้ล่วงลับ..
แล้วแนวทางสู่การเป็น VI ตามแบบฉบับของคุณโยโย่ มีอะไรบ้าง ?
BillionMoney จะมาสรุปให้อ่าน แบบง่าย ๆ
BillionMoney จะมาสรุปให้อ่าน แบบง่าย ๆ
คุณโยโย่ได้แบ่งแนวทางการศึกษาไว้เป็น 5 ขั้นตอน
1.ศึกษาแนวคิดและหลักการการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
ในขั้นตอนแรกนั้น คุณโยโย่แนะนำให้ศึกษาแนวคิด VI จากการอ่านหนังสือด้านการลงทุน
โดยหนังสือแนวคิด VI ที่ได้รับการยอมรับในวงการนักลงทุนอย่างกว้างขวาง ก็อย่างเช่น
-ตีแตก : กลยุทธ์การเล่นหุ้นในภาวะวิกฤต ของ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
-One Up On Wall Street ของ Peter Lynch
-Warren Buffett Speaks ของ Janet Lowe
ซึ่งเมื่อเราอ่านหนังสือเหล่านี้จนละเอียดแล้ว เราก็จะสามารถเข้าใจแนวคิด และวิธีการลงทุนแบบ VI มากขึ้น
เช่น หลักการประเมินมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น และหลักการคำนวณส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัย (Margin of Safety)
เช่น หลักการประเมินมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น และหลักการคำนวณส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัย (Margin of Safety)
2.ฝึกอ่านงบการเงิน และวิเคราะห์ตัวเลข
เราสามารถฝึกฝนการวิเคราะห์ตัวเลขอัตราส่วนทางการเงินต่าง ๆ ในงบการเงิน ผ่านการอ่านหนังสือหลาย ๆ เล่ม
ยกตัวอย่างเช่น หนังสือ อ่านงบการเงินให้เป็น ของ
ดร.ภาพร เอกอรรถพร
ยกตัวอย่างเช่น หนังสือ อ่านงบการเงินให้เป็น ของ
ดร.ภาพร เอกอรรถพร
นอกจากนี้ เราก็ควรฝึกฝนการวิเคราะห์งบการเงิน ด้วยการลองดาวน์โหลดงบการเงินย้อนหลังหลาย ๆ ปี ของบริษัทที่เราสนใจมาลองนั่งแกะดู
3.ศึกษาจิตวิทยาการลงทุน
การเรียนรู้จิตวิทยาการลงทุนนั้น ก็คือการเรียนรู้พฤติกรรมการลงทุนของตัวเอง
ซึ่งจะทำให้เราสามารถจัดการกับอารมณ์ของตัวเองระหว่างการลงทุนได้
ซึ่งจะทำให้เราสามารถจัดการกับอารมณ์ของตัวเองระหว่างการลงทุนได้
ซึ่งการมีจิตวิทยาการลงทุนที่ดีนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่นักลงทุนที่ดีควรมี ไม่น้อยไปกว่าความสามารถในการวิเคราะห์งบการเงิน
ดังนั้น เราจึงต้องฝึกฝนจิตวิทยาการลงทุนของเรา ผ่านการอ่านหนังสือ ยกตัวอย่างเช่น
จิตวิทยาการลงทุน ของ John R. Nofsinger
จิตวิทยาการลงทุน ของ John R. Nofsinger
เพื่อช่วยให้เราเข้าใจแนวคิดของคนในการลงทุน
และปรับสภาพจิตใจ ไม่ให้ผันผวนไปตามราคาหุ้นด้วย
และปรับสภาพจิตใจ ไม่ให้ผันผวนไปตามราคาหุ้นด้วย
4.ฝึกวิเคราะห์ธุรกิจ มองแนวโน้มอุตสาหกรรม และติดตามปัจจัยแวดล้อม
คุณโยโย่แนะนำให้เราอ่านรายงาน 56-1 ของหลาย ๆ บริษัท เพื่อให้เข้าใจภาพรวมของธุรกิจ อุตสาหกรรม และเห็นความเชื่อมโยงของแต่ละธุรกิจ
รวมถึงโครงสร้างรายได้ จุดเด่น จุดด้อย แนวโน้มการเติบโต ความสามารถในการแข่งขัน ความเสี่ยง และปัจจัยสู่ความสำเร็จของบริษัท
นอกจากนี้ การฝึกอ่านรายงานดังกล่าว ยังช่วยให้เราเข้าใจผลกระทบที่เกิดจากปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ที่เปลี่ยนไป เช่น เงินบาทแข็งค่าขึ้น, จำนวนนักท่องเที่ยวเยอะขึ้น, อากาศร้อนขึ้น
ว่าสิ่งเหล่านี้ส่งผลให้บริษัทไหนได้ประโยชน์ หรือบริษัทไหนเสียประโยชน์
ซึ่งเมื่อเราศึกษาไปเรื่อย ๆ ขอบเขตความรู้ของเราก็จะกว้างขึ้น และความสามารถในการวิเคราะห์ของเราก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
5.ฝึกทักษะในการอ่านคน (ผู้บริหาร)
คุณโยโย่เชื่อว่า หุ้นที่ดีจะต้องมีผู้บริหารที่ดี
ซึ่งจะต้องมีคุณสมบัติ 3 ข้อ คือ เก่ง ขยัน และซื่อสัตย์
ซึ่งจะต้องมีคุณสมบัติ 3 ข้อ คือ เก่ง ขยัน และซื่อสัตย์
โดยเราจะต้องวิเคราะห์คุณสมบัติเหล่านี้ของผู้บริหาร ผ่านการวิเคราะห์ประวัติที่ผ่านมา, บุคลิกท่าทาง, ลักษณะการพูดและการตอบคำถาม ของผู้บริหารคนนั้น
สรุปแล้ว คุณโยโย่ได้เขียนถึงทักษะความรู้ที่สำคัญของนักลงทุนไว้ด้วยกัน 5 ข้อ ได้แก่
1.แนวคิดและหลักการการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
2.ทักษะในการวิเคราะห์ตัวเลขในงบการเงิน
3.จิตวิทยาการลงทุน
4.ความสามารถในการวิเคราะห์ธุรกิจ แนวโน้มของอุตสาหกรรม และปัจจัยแวดล้อม
5.ความสามารถในการอ่านคน
ซึ่งถ้าใครที่อยากเริ่มต้นศึกษาหาความรู้ในด้านการลงทุน บทความนี้ก็น่าจะเป็นประโยชน์อยู่ไม่มากก็น้อย..