สรุป หลักการลงทุน David Ryan แชมป์เทรดเดอร์ 3 สมัย ผู้ไล่ล่าสมบัติ ในตลาดหุ้น
19 พ.ย. 2024
การลงทุนให้ประสบความสำเร็จ ส่วนสำคัญคือ การมีต้นแบบที่ดี เพื่อเรียนรู้แนวคิด และตรรกะการตัดสินใจ
และหนึ่งในต้นแบบเทรดเดอร์ที่น่าสนใจ ซึ่งเราจะพาทุกคนไปรู้จักในวันนี้ก็คือ คุณ David Ryan แชมป์การแข่งขัน U.S. Investing Championship ที่ทำผลตอบแทนรวมได้ถึง 1,379% ในเวลา 3 ปี
โดยคุณ David Ryan คว้าแชมป์ตั้งแต่ปีแรกที่เข้าร่วมในปี 1985 ด้วยผลตอบแทน 161% ตามด้วยรองแชมป์ในปี 1986 ที่ผลตอบแทน 160% และกลับมาคว้าแชมป์อีกครั้งในปี 1987 ด้วยผลตอบแทน 118%
แน่นอนว่าด้วยความสำเร็จขนาดนี้ ก็ทำให้มีบทสัมภาษณ์ของเขา อยู่ในหนังสือเทรดเดอร์ระดับตำนานอย่าง Market Wizards และ Momentum Masters
ที่สำคัญคุณ David Ryan ยังเป็นศิษย์เอกของตำนานอย่างคุณ William O'Neil เจ้าของกลยุทธ์ CANSLIM อีกด้วย
แล้วอะไรคือ หลักการที่ทำให้คุณ David Ryan ประสบความสำเร็จ ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
คุณ David Ryan เริ่มสนใจตลาดหุ้นตั้งแต่อายุเพียง 13 ปี เมื่อบังเอิญเห็นชื่อหุ้นตัวหนึ่งในหน้าหนังสือพิมพ์ และเข้าไปขอให้พ่อช่วยซื้อหุ้นให้
แต่พ่อของเขากลับบอกว่า ต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับหุ้นตัวนั้นให้ดีก่อนที่จะเข้าไปลงทุน
พ่อของคุณ Ryan เองก็เป็นนักลงทุน โดยซื้อหุ้นเก็บไว้เพื่อเป็นค่าเทอมช่วงมหาวิทยาลัยให้ลูก และพ่อก็จะคอยอธิบายให้ฟังอยู่เสมอว่า ทำไมถึงเลือกลงทุนในบริษัทนั้น
การได้เรียนรู้จากพ่อกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาหมกมุ่นอยู่กับการลงทุน และอ่านหนังสือเกี่ยวกับตลาดหุ้นให้มากที่สุดเท่าที่จะหาอ่านได้
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อคุณ Ryan ได้เข้าร่วมสัมมนาด้านการลงทุนที่จัดขึ้นโดยคุณ William O'Neil
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสัมมนานี้เอง ทำให้เขาประทับใจแนวคิดและหลักการลงทุน จนยึดถือคุณ O'Neil เป็นต้นแบบ
และหลังจากเรียนจบ เขาก็ตัดสินใจ สมัครเข้าทำงานที่บริษัท O'Neil & Co. ของคุณ O'Neil
โดยยินดีทำงานในตำแหน่งอะไรก็ได้ หรือแม้กระทั่งขอทำงานโดยไม่รับค่าตอบแทน เพียงเพื่อให้ได้โอกาสในการเข้าไปเรียนรู้เรื่องการลงทุนจากคุณ O'Neil
ด้วยความทุ่มเทและความกระตือรือร้นนี้ ภายในระยะเวลาเพียง 4 ปี คุณ Ryan ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองประธานที่อายุน้อยที่สุดในบริษัท
โดยรับผิดชอบเป็นผู้บริหารจัดการกองทุนและทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยโดยตรงของคุณ O'Neil ในการคัดเลือกหุ้นให้กับลูกค้าสถาบัน
การได้เรียนรู้และทำงานใกล้ชิดกับคุณ O'Neil ทำให้เขาเข้าใจและประยุกต์ใช้หลักการ CANSLIM จนประสบความสำเร็จ และก้าวขึ้นเป็นแชมป์การแข่งขัน U.S. Investing Championship
ตัวของคุณ Ryan เอง มองว่าการลงทุนเป็นเหมือนการตามล่าหาสมบัติ เพราะหุ้นในตลาดที่มีอยู่เป็นพัน ๆ ตัว จะมีเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น ที่สร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่น
โดยหลักการลงทุนที่ทำให้ David Ryan ประสบความสำเร็จ แบ่งออกได้เป็น 4 ข้อหลัก ๆ คือ
1. สแกนหาหุ้นน่าสนใจในตลาด
คุณ Ryan ใช้การวิเคราะห์ทั้งปัจจัยทางเทคนิคควบคู่กับปัจจัยพื้นฐานในการคัดกรองหุ้น
ในทุกสัปดาห์ เขาจะใช้เวลานั่งวิเคราะห์กราฟหุ้นเป็นพัน ๆ ตัว เพื่อค้นหาบริษัทที่มีรูปแบบราคาที่น่าสนใจ
โดยให้ความสำคัญกับ 3 ปัจจัยหลัก คือ ราคา ปริมาณการซื้อขาย และแนวโน้มผลประกอบการ
ขั้นตอนแรกจะเริ่มจากการประเมินความแข็งแกร่งของราคาหุ้นผ่านค่า Relative Strength ซึ่งสะท้อนความสัมพันธ์การเคลื่อนไหวระหว่างหุ้นกับดัชนี เพื่อดูว่าหุ้นนั้นแข็งแกร่งกว่าตลาดโดยรวมหรือไม่
หลังจากนั้นจะตรวจสอบการเติบโตของกำไรต่อหุ้น หรือ EPS เพราะเชื่อว่าการเติบโตของกำไรและความคาดหวัง เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น
โดยหุ้นที่ผ่านเกณฑ์ของคุณ Ryan ก่อนที่จะปรับตัวขึ้น และกลายเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนดี มักจะมีรูปแบบที่น่าสนใจคล้ายกัน นั่นก็คือ
ราคาหุ้นจะพักตัวนิ่งและเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ เป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ ก่อนที่ราคาหุ้นจะวิ่งทะลุแนวต้าน และเมื่อราคาทะลุแนวต้านแล้ว ปริมาณการซื้อขายจะเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยก่อนหน้าหลายเท่าตัว
2. มีวินัย ไม่หวั่นไหวตามอารมณ์
คุณ Ryan ให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมก่อนการเทรดในแต่ละวัน
โดยจะตื่นก่อนตลาดเปิด 1 ชั่วโมง เพื่ออ่านข่าวเกี่ยวกับภาพรวมตลาดและข่าวของบริษัทที่สนใจ รวมถึงจัดเตรียมรายชื่อหุ้นที่จะติดตาม
ในช่วงตลาดเปิด 45 นาทีแรก เขามักจะไม่ทำอะไรเลย เพราะเป็นช่วงเวลาที่ตลาดมักมีความผันผวนสูง มีการวิ่งหลอก และกำลังตอบรับข่าวทั้งดีและร้ายที่เกิดขึ้นก่อนหน้า
การรอให้ตลาดนิ่งก่อน จะช่วยให้เห็นทิศทางที่ชัดเจนและตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น
และหลังตลาดปิด เขาก็จะวางแผนการเทรดและตั้งคำสั่งซื้อขายอัตโนมัติไว้สำหรับวันถัดไป เพื่อป้องกันไม่ให้อารมณ์มีผลต่อการตัดสินใจ
3. เข้าซื้อให้ถูกจังหวะ
คุณ Ryan มีจังหวะการเข้าซื้อ 2 รูปแบบหลัก คือ Breakout และ Pullback
สำหรับรูปแบบแรกที่เขาสนใจ คือการที่ราคาหุ้นพักตัวนิ่งและเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ก่อนที่จะเกิดการ Breakout หรือราคาวิ่งทะลุแนวต้าน และแนวโน้ม
และเมื่อ Breakout แล้ว ก็จะต้องมีปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยก่อนหน้านั้นหลายเท่า เพื่อเป็นการยืนยันว่า ราคาหุ้นตัวนี้เกิดการ Breakout จริง
ส่วนรูปแบบ Pullback หรือก็คือ การรอซื้อตอนที่ราคาย่อตัวลงมาทดสอบแนวรับสำคัญ เขาก็จะรอดูว่าปริมาณการซื้อขายลดลงหรือไม่ ถ้าลดลงก็ถือเป็นสัญญาณที่ดี เพราะแปลว่าแรงขายกำลังอ่อนตัว
ซึ่งสอดคล้องกับหลักการที่ว่า หุ้นในแนวโน้มขาขึ้น เวลาย่อตัวควรมีปริมาณการซื้อขายที่ลดลง หรือมีคนอยากขายน้อย และเมื่อปรับตัวขึ้น ควรมีปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หรือมีคนอยากซื้อมาก
และอีกข้อที่สำคัญคือ คุณ Ryan จะหลีกเลี่ยงการซื้อหุ้นที่ขึ้นมา 15-20% จากฐานราคาไปแล้ว
4. บริหารความเสี่ยงอย่างรัดกุม
คุณ Ryan จะถือหุ้นในพอร์ตไม่เกิน 10 ตัว โดยแต่ละตัวจะมีน้ำหนักประมาณตัวละ 10% ของพอร์ตเท่ากันหมด
โดยในหุ้นแต่ละตัว เขาจะยอมให้ขาดทุนไม่เกิน 8% เท่านั้น จากต้นทุนการเข้าซื้อ เพื่อไม่ให้พอร์ตโดยรวมขาดทุนเกิน 1%
การควบคุมความเสี่ยงเป็นสิ่งที่คุณ Ryan ให้ความสำคัญ โดยหุ้นที่ขาดทุน ส่วนใหญ่จะถูกขายออกภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์
ในขณะที่หุ้นที่มีกำไรจะถือต่อไปตราบที่ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์ หลายเดือน หรือนานเป็นปีก็ตาม
คุณ Ryan ยอมรับว่ากลยุทธ์ของเขามีโอกาสชนะ หรือก็คือเข้าซื้อไปแล้วจะได้กำไร ประมาณ 50% เท่านั้น
แต่ด้วยการตัดขาดทุนเร็วและปล่อยให้กำไรวิ่ง ทำให้กำไรจากหุ้นไม่กี่ตัวที่วิ่งได้ดี สามารถชดเชยการขาดทุนเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ทั้งหมด
อ่านถึงตรงนี้ก็จะเห็นว่า การลงทุนให้ประสบความสำเร็จไม่ได้เกิดจากโชคช่วย แต่มาจากการมีระบบและหลักการที่ชัดเจน
ทำให้คุณ David Ryan คือ ตัวอย่างที่โดดเด่นของการประยุกต์ใช้หลักการ CANSLIM จนคว้าแชมป์การแข่งขัน U.S. Investing Championship ถึง 3 สมัย
และยังเป็นมือขวาของคุณ William O'Neil ซึ่งเป็นตำนานของวงการลงทุนอีกด้วย
เส้นทางของคุณ David Ryan ก็น่าจะเป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นชัดเจนว่า เมื่อเรามีต้นแบบที่ดีและมีความมุ่งมั่นที่จะเรียนรู้แล้ว
เราทุกคนก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการลงทุนได้เช่นเดียวกัน..
#ลงทุน
#หลักการลงทุน
#DavidRyan
References
- หนังสือ โมเมนตัม มาสเตอร์ (2560) โดย Mark Minervini, David Ryan, Dan Zanger และ Mark Ritchie II
- หนังสือ พ่อมดแห่งวอลสตรีท : สัมภาษณ์สุดยอดเทรดเดอร์ (2557) โดย Jack D. Schwager