สรุป 5 ข้อควรรู้ เกี่ยวกับประกัน เพื่อให้เรา ไม่เสียประโยชน์

สรุป 5 ข้อควรรู้ เกี่ยวกับประกัน เพื่อให้เรา ไม่เสียประโยชน์

29 ส.ค. 2024
ประกันเป็นสิ่งที่หลายคนรู้ว่าสำคัญ แต่ก็มักลังเลที่จะซื้อ บางคนกังวลว่าจะเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ บางคนก็กังวลว่าจะไม่ได้รับความคุ้มครองตามที่คาดหวัง
จริง ๆ แล้ว การทำประกันไม่ได้ยากอย่างที่คิด เราต้องรู้จักเลือกและเข้าใจเงื่อนไขของสัญญากรมธรรม์ให้ดี
เพราะการทำความเข้าใจเงื่อนไขสัญญาจะช่วยให้เราได้รับประโยชน์สูงสุดจากกรมธรรม์ และหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
หากอยากรู้ว่า มีเงื่อนไขสำคัญอะไรบ้างที่เราควรรู้ ? 
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
1. การปกปิดข้อมูล
เมื่อทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพ การให้ข้อมูลสุขภาพตามความจริงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะบริษัทมีสิทธิตามกฎหมายที่จะปฏิเสธการจ่ายเงินประกัน หากพบว่ามีการปกปิดข้อมูลสำคัญ
โดยบริษัทมีสิทธิที่จะยกเลิกสัญญาได้ภายใน 2 ปี นับจากวันทำสัญญา
แต่หากผ่านไปแล้ว 2 ปี นับตั้งแต่วันทำสัญญา และเรายังมีชีวิตอยู่ บริษัทไม่สามารถปฏิเสธการจ่ายเคลมได้ด้วยเหตุผลว่ามีการปกปิดข้อมูล
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ
ถ้าทำประกัน แต่ไม่ได้แจ้งว่ามีประวัติการป่วยเบาหวาน หลังจากนั้น 1 ปี เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
บริษัทสามารถอ้างเพื่อปฏิเสธการจ่ายเงินได้ แม้ว่าจะเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่มีการปกปิดข้อมูลสำคัญและเกิดขึ้นภายในระยะเวลา 2 ปี
แต่ในกรณีปกปิดอายุ มีข้อยกเว้นอยู่ว่าบริษัทยังสามารถปรับเบี้ยประกันให้ถูกต้องตามอายุจริงได้ แม้จะเกิน 2 ปีแล้ว
2. ระยะเวลารอคอย
ระยะเวลารอคอย หรือ Waiting Period เป็นเงื่อนไขสำคัญของประกันสุขภาพที่เราควรเข้าใจ เพราะมีผลต่อการใช้สิทธิเคลมประกัน
ระยะเวลารอคอย คือ ช่วงที่เราซื้อประกันแล้ว แต่ยังไม่สามารถเคลมประกันได้ โดยจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่บริษัทให้ความคุ้มครอง 
วัตถุประสงค์ของการมีระยะเวลารอคอยก็คือ เพื่อรอดูว่าเราไม่ได้เจ็บป่วย หรือเป็นโรคร้ายก่อนทำประกัน
ดังนั้นการทำประกันสุขภาพจึงควรทำในช่วงที่ร่างกายแข็งแรง เพื่อที่จะได้ผ่านระยะเวลารอคอยโดยไม่มีปัญหา 
โดยระยะเวลารอคอย
- สำหรับโรคทั่วไป 30 วัน
- สำหรับโรคร้ายแรง 90 วัน
- สำหรับโรคที่มีเงื่อนไข 120 วัน
แต่ในกรณีของประกันอุบัติเหตุ ไม่มีระยะเวลารอคอย บริษัทจะให้ความคุ้มครองทันที
อย่างไรก็ตาม ระยะเวลารอคอยอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบริษัท เราจึงควรศึกษาเงื่อนไขให้ละเอียดก่อนตัดสินใจทำประกัน
3. ระยะเวลาในการผ่อนผันชำระเบี้ย
ปกติแล้วกรมธรรม์ทั้งประกันชีวิตและประกันสุขภาพ จะมีระยะเวลาผ่อนผันในการชำระเบี้ย 30 หรือ 31 วันนับจากวันครบกำหนดชำระ 
ดังนั้นหากเราลืม หรือยังไม่ได้ชำระเบี้ยประกันให้ตรงเวลา กรมธรรม์ก็ยังคงมีผลคุ้มครองอยู่ แต่ถ้าขาดจ่ายเบี้ยไปนานเกินกว่านั้น กรมธรรม์ก็จะไม่คุ้มครองแล้ว 
ซึ่งก็หมายความว่า ถ้าเสียชีวิตในช่วงระยะเวลาผ่อนผันชำระเบี้ย บริษัทประกันก็ยังจะจ่ายเงินชดเชยให้ตามปกติ 
แต่จะหักค่าเบี้ยประกันที่ค้างชำระออกจากเงินที่จะได้รับ
4. สิทธิในการยกเลิกกรมธรรม์
การยกเลิกกรมธรรม์ แบ่งเป็น 2 ช่วง คือช่วงแรกที่ทำประกัน และช่วงที่ทำไปแล้วระยะหนึ่ง
ช่วงแรกที่ทำประกัน ถ้าเราทำผ่านตัวแทน เรามีสิทธิขอยกเลิกได้ภายใน 15 วันนับจากวันที่ได้รับกรมธรรม์ แต่ถ้าเราทำผ่านทางโทรศัพท์หรือ Telesales เรามีสิทธิขอยกเลิกได้ภายใน 30 วัน 
ระยะเวลาที่เราสามารถยกเลิกกรมธรรม์ได้นี้เอง เรียกว่า Free Look Period
การยกเลิกกรมธรรม์ สามารถทำได้ด้วยการส่งคืนกรมธรรม์ไปยังบริษัท
โดยบริษัทจะคืนเบี้ยประกันหลังจากหักค่าตรวจสุขภาพถ้ามี และหักค่าใช้จ่ายของบริษัทฉบับละ 500 บาท
ส่วนในกรณีที่เราทำประกันไปแล้วระยะหนึ่ง แต่อาจจะมีเหตุผลที่ทำให้จ่ายเบี้ยไม่ไหว หรือมีเหตุที่ต้องใช้เงิน ตรงนี้เราสามารถเลือกที่จะเวนคืนกรมธรรม์ได้ 
โดยการเวนคืนกรมธรรม์ คือ การขอยกเลิกกรมธรรม์
เพื่อรับเงินสดจากบริษัทประกัน ซึ่งจะขอเวนคืนได้เมื่อกรมธรรม์มีมูลค่าเงินสดเกิดขึ้นแล้ว โดยทั่วไปจะเกิดขึ้นในปีที่ 2
และเมื่อเราเวนคืนแล้ว กรมธรรม์ประกันชีวิต รวมไปถึงผลประโยชน์ต่าง ๆ ในกรมธรรม์ จะสิ้นสุดลงทันที
สิ่งที่ต้องระวังคือ หากเราเคยนำประกันนั้นไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษี แล้วเวนคืนก่อนครบ 10 ปี ต้องจ่ายคืนภาษีย้อนหลังที่ได้ใช้สิทธิลดหย่อนไป พร้อมดอกเบี้ย 1.5% ต่อเดือนของยอดภาษีที่จ่ายด้วย
เพราะประกันชีวิตที่ใช้ลดหย่อนภาษีได้ ต้องให้ความคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป 
ดังนั้นก่อนตัดสินใจยกเลิกหรือเวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิต ควรพิจารณาว่าคุ้มหรือไม่ พร้อมกับพิจารณาทางเลือกอื่นประกอบเพิ่มเติม
5. ความหมายของตัวเลขในแบบประกัน
เวลาเราเห็นชื่อแบบประกันชีวิต มักจะตามมาด้วยตัวเลขที่มีเครื่องหมายทับคั่นกลาง 
บางแบบตัวเลขน้อยจะอยู่ข้างหน้า แต่บางแบบตัวเลขมากกว่าจะอยู่ข้างหน้า วิธีการตั้งตัวเลขหน้าและหลังเป็นเพียงวิธีการตั้งของแต่ละบริษัท 
ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใด ความหมายของตัวเลขยังคงเหมือนเดิม
ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ก็เอาไว้ดูจำนวนปีที่จ่ายเบี้ย และระยะเวลาคุ้มครอง
ตัวเลขที่น้อย คือ จำนวนปีที่ต้องชำระเบี้ย
ตัวเลขมาก คือ ระยะเวลาความคุ้มครองชีวิต 
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ
แบบประกัน ABC 10/1 
คือ ระยะเวลาชำระเบี้ย 1 ปี ให้ความคุ้มครองชีวิต 10 ปี
แบบประกัน ABC 20/20
คือ ระยะเวลาชำระเบี้ย 20 ปี ให้ความคุ้มครองชีวิต 20 ปี
แบบประกัน ABC 99/20
คือ ระยะเวลาชำระเบี้ย 20 ปี ให้ความคุ้มครองชีวิต 99 ปี
ซึ่งการเข้าใจความหมายของตัวเลข ไม่เพียงช่วยให้ทราบถึงระยะเวลาความคุ้มครองและการชำระเบี้ย แต่ยังช่วยให้เรามองออกว่า แบบประกันไหนที่สามารถลดหย่อนภาษีได้อย่างรวดเร็ว
โดยแบบประกันชีวิตที่มีระยะเวลาความคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป จึงจะสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้
อ่านถึงตรงนี้ก็เชื่อว่า จะทำให้เข้าใจเงื่อนไขสำคัญเกี่ยวกับประกันมากขึ้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม เนื้อหานี้เป็นเพียงเงื่อนไขส่วนหนึ่งเท่านั้น ในการตัดสินใจซื้อประกัน ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต, ประกันชีวิตที่ซื้อความคุ้มครองสุขภาพเพิ่ม หรือประกันสุขภาพแบบเดี่ยว 
เราจึงควรศึกษาเงื่อนไขของประกันแต่ละแบบอย่างละเอียด เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด..

#วางแผนการเงิน
#ประกัน
#สรุปประกัน
References
© 2024 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.