SISB โรงเรียนนานาชาติหนึ่งเดียว ในตลาดหุ้นไทย มูลค่า 29,000 ล้าน
26 ส.ค. 2024
#ลงทุน #หุ้นไทย #SISB
หากเราถามนักลงทุนเก่ง ๆ ว่า คุณสมบัติของบริษัทที่ดี ที่น่าลงทุน เป็นอย่างไร ?
คำตอบที่ได้รับก็มักจะเป็น
“บริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน ที่ต่อให้ขึ้นราคาแล้ว ลูกค้าก็ยังต้องใช้บริการต่อไป ไม่ยอมเปลี่ยนไปใช้บริการเจ้าอื่น”
ซึ่งมีอยู่บริษัทหนึ่ง ที่มีคุณสมบัติตรงตามคำกล่าวข้างต้น โดยที่ผ่านมาก็เติบโตได้ดีมาก แถมยังสามารถขึ้นราคาได้ทุกปีด้วย
บริษัทที่ว่าก็คือ บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ SISB เจ้าของโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ชื่อดัง ที่อยู่ในตลาดหุ้นไทย
หากสงสัยว่า เรื่องราวของ SISB น่าสนใจอย่างไร ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
จุดเริ่มต้นของ SISB เริ่มขึ้นในปี 2544 จากกลุ่มผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนนานาชาติชาวไทยและสิงคโปร์
ที่มองเห็นถึงความสำคัญของการมีหลักสูตรที่โดดเด่นในด้าน คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ รวมถึงการได้เรียนรู้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน ไปพร้อมกัน
จึงได้มีการจัดตั้ง “โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์กรุงเทพฯ” ซึ่งเป็นโรงเรียนสาขาแรกขึ้นมา
ซึ่งปัจจุบัน สามารถรองรับจำนวนนักเรียนได้สูงสุด 2,175 คน
โดยโรงเรียนนี้ถือว่า เป็นโรงเรียนแห่งแรกในประเทศไทย ที่นำหลักสูตรการศึกษาของประเทศสิงคโปร์มาใช้เป็นหลักสูตรพื้นฐานในการเรียน
ด้วยความมุ่งมั่นของผู้บริหารที่อยากจะให้โรงเรียนของ SISB เป็นโรงเรียนชั้นนำ พร้อมกับตอบสนองความต้องการเรียนในหลักสูตรนานาชาติ ที่มีมากขึ้น บริษัทจึงได้เปิดสาขาโรงเรียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน SISB มีโรงเรียนทั้งหมด 6 โรงเรียน โดยแต่ละโรงเรียน มีลำดับการเปิดดังนี้
- ปี 2556 เปิดโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์สุวรรณภูมิ โดยปัจจุบันสามารถรองรับจำนวนนักเรียนได้สูงสุด 510 คน
- ปี 2559 เปิดโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์เชียงใหม่ โดยโรงเรียนนี้จะอยู่ภายใต้บริษัท เอสไอเอสบี สิริ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง SISB กับ กลุ่มนักธุรกิจในจังหวัดเชียงใหม่
ปัจจุบันโรงเรียนนี้สามารถรองรับนักเรียนได้สูงสุด 470 คน
- ปี 2560 เปิดโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ธนบุรี โดยปัจจุบันสามารถรองรับจำนวนนักเรียนได้สูงสุด 1,590 คน
- ปี 2566 เปิดโรงเรียนใหม่ 2 โรงเรียน คือ โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์นนทบุรี และ โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ระยอง
โดยทั้ง 2 โรงเรียนดังกล่าว ปัจจุบันสามารถรองรับจำนวนนักเรียนได้สูงสุด 1,040 คน และ 930 คน ตามลำดับ
ซึ่งโรงเรียนของ SISB นั้น ในแต่ละปี จะแบ่งภาคการศึกษาออกเป็น 3 ภาคเรียน
- ภาคเรียนที่ 1 เรียนระหว่างเดือนสิงหาคม-ธันวาคม
- ภาคเรียนที่ 2 เรียนระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน
- ภาคเรียนที่ 3 เรียนระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน
แม้ว่าจะขึ้นชื่อว่าเป็นโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ ก็ใช่ว่าทาง SISB จะใช้แค่หลักสูตรจากทางสิงคโปร์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
แต่ยังมีการผสมผสานหลักสูตรจากทางสหราชอาณาจักรด้วย เพื่อให้เกิดความเหมาะสมต่อพัฒนาการการเรียนรู้สำหรับนักเรียน
- เตรียมอนุบาล-อนุบาล ใช้หลักสูตร Early Stage Years Foundation ของสหราชอาณาจักร
- ประถมศึกษาปีที่ 1-6 ใช้หลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ ประเทศสิงคโปร์
- มัธยมศึกษาปีที่ 1-4 ใช้หลักสูตรมัธยมศึกษาของประเทศสิงคโปร์ และหลักสูตร Cambridge IGCSE ของสหราชอาณาจักร
- มัธยมศึกษาปีที่ 5-6 ใช้หลักสูตร Cambridge AS/A Level และ IBDP
โดยที่ผ่านมา จำนวนนักเรียนที่ SISB เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด
- ปี 2564 จำนวนนักเรียนรวม 2,434 คน
- ปี 2565 จำนวนนักเรียนรวม 3,114 คน
- ปี 2566 จำนวนนักเรียนรวม 4,197 คน
และล่าสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2567 ทาง SISB ก็มีนักเรียนทั้งหมดรวม 4,357 คน
หากเราไปดูผลประกอบการย้อนหลัง จะพบว่า ระหว่างปี 2564 ถึงปี 2566 SISB มีกำไรเติบโตมากกว่า 3 เท่า
ปี 2564 รายได้ 1,071 ล้านบาท กำไร 208 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 1,339 ล้านบาท กำไร 369 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 1,930 ล้านบาท กำไร 653 ล้านบาท
และล่าสุด ครึ่งปีแรก 2567
รายได้ 1,141 ล้านบาท กำไร 421 ล้านบาท
อ่านมาถึงตรงนี้ ก็เชื่อว่า เราน่าจะรู้จักธุรกิจของ SISB เจ้าของโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ชื่อดัง กันดีขึ้นบ้างแล้ว
จากจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้นมาก และผลประกอบการที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด
จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจแต่อย่างใด ที่เราจะได้เห็นว่า ราคาหุ้นของบริษัท เพิ่มขึ้นมามากกว่า 6 เท่า ตั้งแต่ตอน IPO จนวันนี้ บริษัทมีมูลค่าสูงถึง 29,000 ล้านบาท..
หมายเหตุ: บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้นำให้ซื้อหรือขายหุ้นเหล่านี้ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน ก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
References:
- รายงานประจำปี 2566 บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน)
- MD&A ไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ปี 2567 บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน)