Ferrari สร้างแบรนด์แข็งแกร่ง ขายรถ 1 คัน กำไรเท่า Tesla 10 คัน
20 ก.พ. 2024
Ferrari สร้างแบรนด์แข็งแกร่ง ขายรถ 1 คัน กำไรเท่า Tesla 10 คัน | MONEY LAB
ท่ามกลางสถานการณ์ที่ผู้ผลิตรถยนต์ ต่างฟาดฟันกันอย่างดุเดือด ด้วยสงครามราคา เพื่อที่จะขายรถของตัวเองให้ได้จำนวนมากที่สุด
อย่างเช่นในปีที่ผ่านมา Tesla ขายรถได้ราว 1.8 ล้านคัน ในขณะที่ Mercedes-Benz ก็ขายได้มากกว่า 2.4 ล้านคัน
แต่ในอีกด้านหนึ่ง Ferrari ง่วนอยู่กับการผลิตรถยนต์ และออกแบบเครื่องยนต์ต่าง ๆ ให้สมบูรณ์แบบที่สุด โดยไม่สนว่าพวกเขาจะผลิตรถยนต์ได้เพียงแค่ปีละประมาณ 9,000 คันเท่านั้น
ถึงอย่างนั้น สิ่งนี้เองกลับทำให้ Ferrari กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ ที่มีความสามารถในการทำกำไร สูงกว่าผู้ผลิตรถยนต์ทุกบริษัทในโลก ด้วยอัตรากำไรสุทธิในปี 2022 ที่สูงถึง 18.3%
แล้ว Ferrari มีกลยุทธ์อย่างไร ถึงกลายเป็นคนที่ “ทำน้อย แต่ได้มาก” แบบนี้ ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน ให้เข้าใจง่าย ๆ
Ferrari เป็นบริษัทรถยนต์ ที่เกิดมาเพื่อแตกต่างจากผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ ตั้งแต่แรก
เพราะในขณะที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์อื่น ๆ เกิดมาเพื่อสร้างรถยนต์ให้สามัญชนคนทั่วไป หรือกองทัพได้ขับขี่
แต่ Ferrari กลับมีต้นกำเนิดมาจากทีมรถแข่ง Scuderia Ferrari ภายใต้บริษัท Alfa Romeo ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1929 ซึ่งผู้ก่อตั้งก็คือ คุณ Enzo Ferrari นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม หลังจากอยู่ภายใต้ร่มเงาของ Alfa Romeo มาถึง 10 ปี คุณ Enzo ที่ไม่ลงรอยกับผู้บริหาร ก็ได้แยกออกมาตั้งบริษัทของตัวเองในที่สุด
เมื่อมีต้นกำเนิดมาจากทีมรถแข่งแบบนี้ ก็ส่งผลให้ เครื่องยนต์กลไก รวมถึงตัวรถยนต์ Formula 1 ของ Ferrari ได้รับการวิจัยและพัฒนาอยู่เสมอ เพื่อที่จะชนะคู่แข่งทีมอื่น ๆ
จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่รถ Formula 1 ของทีม Ferrari นั้น ได้แชมป์ Constructor Championship มากที่สุดถึง 16 สมัย รวมถึงชนะการแข่งขัน Grand Prix ไปกว่า 242 ครั้ง สร้างชื่อเสียงให้ Ferrari โด่งดังไปทั่วโลก
นอกจากนี้ ผลพลอยได้จากการพัฒนาเครื่องยนต์รถ Formula 1 ก็ได้ทำให้เครื่องยนต์และตัวรถสปอร์ต ซึ่งเอาไว้ขายให้กับบุคคลทั่วไป ได้รับการพัฒนาไปด้วย
ดังคำกล่าวที่ว่า “ระฆังดี ไม่ต้องตีแรงก็ดัง” เมื่อรถ Formula 1 ของ Ferrari สร้างภาพลักษณ์ของผู้ชนะ และความสุดยอดของรถสปอร์ตจาก Ferrari ก็ได้รับการกล่าวขานกันปากต่อปาก
โลโกม้าผยองของ Ferrari จึงกลายเป็นภาพแทนของความสุดยอด และความสำเร็จ ที่ใคร ๆ ต่างก็รู้จัก และอยากครอบครองสักครั้ง
การสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้ชัดเจนแบบนี้เอง คือกลยุทธ์ที่ทำให้ Ferrari ไม่จำเป็นต้องผลิตรถยนต์จำนวนมาก ๆ เพื่อแข่งขันกับบริษัทอื่น แต่ก็สามารถทำกำไรสูงได้
เห็นได้จากอัตรากำไรจากการดำเนินงาน หรือ Operating Profit Margin ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกถึง ประสิทธิภาพในการจัดการค่าใช้จ่าย ของบริษัท Ferrari ในปี 2022 เมื่อเทียบกับบริษัทรถยนต์อื่น ๆ จะพบว่า
Ferrari อัตรากำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 24.0%Tesla อัตรากำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 16.8%Mercedes-Benz อัตรากำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 12.3%
หรือถ้าหากยังเห็นความต่างไม่ชัดพอ เราลองมาเทียบกำไรต่อการขายรถยนต์ 1 คัน ระหว่าง Ferrari กับ Tesla ผู้ผลิตรถยนต์ที่มีอัตรากำไรสูงที่สุด 2 อันดับแรกของโลก
Ferrari มีกำไรจากการขายรถยนต์ 3,584,700 บาทต่อคัน ในขณะที่ Tesla มีกำไรจากการขายรถยนต์ 375,900 บาทต่อคัน
พูดง่าย ๆ ก็คือ Tesla จะต้องขายรถยนต์ให้ได้เกือบ 10 คัน ถึงจะได้กำไรเท่ากับการขาย Ferrari 1 คัน..
และนอกจากการมีแบรนด์แข็งแกร่ง จะช่วยให้ Ferrari ทำน้อย แต่ได้มากแบบนี้แล้ว ยังกลายเป็นช่องทางต่อยอด ให้กับบริษัท ได้กระจายธุรกิจของตัวเองออกไปเพิ่มเติม นอกจากการผลิตรถยนต์อีกด้วย
นั่นคือการทำ ธุรกิจแบรนด์หรู ด้วยการนำโลโกของ Ferrari ไปใส่ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า, เสื้อผ้า, รองเท้า และน้ำหอม เป็นต้น
ซึ่งรายได้จากธุรกิจเหล่านี้ บวกรวมกับรายได้จากสปอนเซอร์ ที่สนับสนุนทีมแข่งรถของ Ferrari ก็คิดเป็น 9% ของรายได้ทั้งหมด เลยทีเดียว
เรื่องนี้แสดงให้เราเห็นว่า การสร้างแบรนด์นั้น สำคัญกับตัวธุรกิจมากเพียงใด
เพราะการมีแบรนด์ที่ชัดเจนและแข็งแกร่ง ทำให้ธุรกิจมีอำนาจในการตั้งราคาสินค้าให้สูง และมีอัตรากำไรที่ดีได้
ทั้งยังสามารถเปิดโอกาสให้ธุรกิจ ได้เจอกับช่องทางในการเติบโตใหม่ได้อีกด้วย
เหมือนอย่างเช่น Ferrari ที่ตอนแรกเริ่มด้วยการเป็นทีมรถแข่ง และบริษัทผลิตรถ แต่ก็สามารถนำแบรนด์ของตัวเอง มาสร้างเป็นธุรกิจแบรนด์หรูได้
จากทั้งหมดนี้เองจึงทำให้ Ferrari สามารถเป็นทั้งผู้นำในสนามแข่งรถ ด้วยความสำเร็จมากมาย และสนามการค้า ด้วยอัตรากำไรที่สูงลิ่ว
และสามารถจับฐานลูกค้าของตัวเอง ได้อย่างอยู่หมัด จนไม่ต้องกังวล กับสมรภูมิอันดุเดือด ของสงครามราคา
เหมือนกับที่รถ Formula 1 ก็ไม่เคยลงถนนไปวิ่งแข่งกัน กับรถยนต์ธรรมดา ๆ ตามท้องถนนทั่วไป..
References
-https://www.cascade.app/studies/ferrari-strategy-study
-https://en.wikipedia.org/wiki/Scuderia_Ferrari
-https://fiatgroupworld.com/2023/04/26/ferrari-and-tesla-the-worlds-most-profitable-carmakers/
-แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี 2022 ของ Ferrari N.V.
-https://shorturl.at/efiGI
-https://www.best-selling-cars.com/brands/2023-full-year-global-best-selling-car-models-worldwide/?expand_article=1
-https://www.cascade.app/studies/ferrari-strategy-study
-https://en.wikipedia.org/wiki/Scuderia_Ferrari
-https://fiatgroupworld.com/2023/04/26/ferrari-and-tesla-the-worlds-most-profitable-carmakers/
-แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี 2022 ของ Ferrari N.V.
-https://shorturl.at/efiGI
-https://www.best-selling-cars.com/brands/2023-full-year-global-best-selling-car-models-worldwide/?expand_article=1