สรุปศึกแย่งบริษัทแม่ 7-Eleven เกิดที่ญี่ปุ่น วันนี้กระทบถึงไทย
31 ม.ค. 2025
ครึ่งเช้าวันนี้ราคาหุ้น CPALL ร่วงลงไปถึง -5.75% โดยความกังวลนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้ลงข่าวว่า
ทางบริษัท Seven & I Holdings ซึ่งเป็นบริษัทแม่เจ้าของ 7-Eleven กว่า 85,000 สาขาใน 20 ประเทศทั่วโลก ได้ติดต่อขอให้ทาง เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือกลุ่ม C.P. ให้ไปร่วมลงทุนเพื่อทำ Management Buyout ด้วยกัน เพื่อเอา Seven & I Holdings ออกจากตลาดหุ้น
ซึ่งนอกจาก C.P. แล้ว ทาง Seven & I Holdings ยังมีการติดต่อชวนบริษัทอื่น ๆ มาทำ Management Buyout ด้วยเช่นกัน
เช่น
- ITOCHU บริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ที่มีหนึ่งในธุรกิจเป็นร้าน Family Mart
- บริษัทจัดการทรัพย์สินอย่าง Apollo Global Management จากสหรัฐอเมริกา
แล้วทำไม Seven & I Holdings ถึงไปชวนคนนู้นคนนี้ มาร่วมกันระดมทุน เพื่อถอดบริษัทออกจากตลาดหุ้น ?
นั่นก็เป็นเพราะว่า ทางคุณ Junro Ito ทายาทของตระกูล Ito ที่เป็นผู้ซื้อกิจการ 7-Eleven เข้ามาในญี่ปุ่น และตอนนี้ยังเป็นผู้บริหาร Seven & I Holdings อยู่
ไม่ต้องการให้ใครมาครอบงำบริษัท Seven & I Holdings จึงต้องต่อสู้กับการครอบงำบริษัทโดยกลุ่มทุนค้าปลีกแคนาดาที่ชื่อว่า Alimentation Couche-Tard Inc.
โดยตอนแรกกลุ่มนี้ เคยยื่นข้อเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดจาก Seven & i Holding ในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
เรื่องนี้ก็ดูไม่แปลกอะไร เพราะก็เหมือนกับการที่บริษัทเข้าไปซื้อกิจการอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน เพื่อขยายอาณาจักร
แต่เรื่องราวก็เหมือนจะไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะท่าทีของ Seven & i Holding เหมือนจะไม่ได้อยากขายกิจการ
เพราะเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว Seven & i Holding ที่นำโดยคุณ Junro Ito ตัดสินใจประกาศซื้อหุ้นคืนจากนักลงทุนทั้งหมดแทน เพื่อนำบริษัทออกจากตลาดหุ้น
สิ่งนี้เองที่เรียกว่า “Management Buyout” เพราะผู้ที่เป็นหัวเรือใหญ่ในการเข้าซื้อกิจการ คือผู้บริหารที่กำลังทำงานอยู่ในบริษัท
อันจะทำให้จากแต่เดิมที่ตระกูล Ito ถือหุ้น Seven & I Holdings ประมาณ 8.5%
(ผ่านบริษัท Ito Kogyo 8.1% และตัวคุณ Junro Ito ถืออยู่ 0.4%)
ส่วนนอกนั้นก็เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งแทบทั้งหมดเป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น ที่ถือกระจาย ๆ กันไป
การที่โครงสร้างถือผู้หุ้นเป็นแบบนี้ ก็มีโอกาสที่ Alimentation Couche-Tard Inc. จะสามารถไปตะล่อมขอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายอื่น ๆ เรื่อย ๆ เพื่อสะสมสัดส่วนความเป็นเจ้าของในบริษัทให้มากขึ้นได้
ทางตระกูล Ito จึงต้องขัดขวาง ด้วยการแข่งประกาศซื้อหุ้นทั้งหมดคืนออกจากตลาด พร้อมกับรวบรวมพรรคพวก
แต่การทำแบบนั้นได้ ก็ต้องใช้เงินมหาศาล โดยมีการประเมินกันว่า มูลค่าในการซื้อหุ้นทั้งหมดคืนครั้งนี้ น่าจะสูงถึงเกือบ 2 ล้านล้านบาท
ซึ่งถ้าสำเร็จจะถือเป็นการ Management Buyout ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเลย..
แต่ลำพังเพียงแค่ตระกูล Ito คงจะหาเงินสดมาซื้อกิจการไม่ได้มากขนาดนั้นแน่ ทำให้ Seven & i Holding ต้องไประดมทุนกับนักลงทุนอื่น ๆ ตามรายชื่อต่าง ๆ ที่กล่าวกันไปข้างต้น และถ้าขาดส่วนที่เหลือ ก็อาจจะเป็นการกู้ยืมธนาคารต่อ
นั่นจึงนำมาสู่ข่าวลือว่า ตระกูล Ito ได้ชักชวนกลุ่ม C.P. ให้มาเข้าร่วมด้วย
และสร้างความกังวลให้นักลงทุนไทยต่อ CPALL ในวันนี้ ที่มองว่า ถ้าหากทาง C.P. เข้าร่วมการ Management Buyout ครั้งประวัติศาสตร์นี้ไป
สิ่งที่ตามมา อาจจะเป็นหนี้สินที่เพิ่มขึ้นของทาง CPALL ซึ่งจะทำให้อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังจากลดลงเรื่อย ๆ ในช่วง 3 ปีมานี้
และภาระดอกเบี้ยที่มากขึ้น ก็จะไปกดดันตัวกำไรที่ธุรกิจทำได้อีกทอดหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ก็ต้องบอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ เป็นเรื่องของความคาดหวัง และการคาดการณ์ของนักลงทุนเท่านั้น เพราะเรื่องการเข้าซื้อกิจการนี้ยังไม่มีข้อสรุป
และอัปเดตล่าสุด จากหนังสือชี้แจงผ่านทางข่าวตลาดหลักทรัพย์ของบริษัท CPALL เกี่ยวกับเรื่องบริษัทค้าปลีกของประเทศญี่ปุ่นมองหาผู้ร่วมลงทุน
ทางบริษัทก็ได้ชี้แจงว่า ในขณะนี้เรื่องยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน และยังไม่ได้มีการตัดสินใจเลือกผู้ร่วมทุนแต่ประการใด
และทางบริษัทมีนโยบายการลงทุนที่มุ่งเน้นการเติบโตของธุรกิจ ด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง โดยเน้นประโยชน์สูงสุดของบริษัท ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียเป็นสำคัญ
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า แม้จะเป็นนักลงทุนในตลาดหุ้นไทย แต่การติดตามสถานการณ์ธุรกิจต่าง ๆ รอบโลก ก็เป็นเรื่องที่เราควรให้ความสนใจ
เหมือนกับการแย่งบริษัทแม่ของ 7-Eleven ที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น เหมือนจะดูไกลตัวเราในตอนแรก
แต่วันนี้กลับมาสะท้อนให้เราเห็น ในหน้าจอโทรศัพท์ที่เรากำลังเปิดดูหุ้น CPALL เจ้าของ 7-Eleven ในประเทศไทย อยู่ในวันนี้นั่นเอง..
#ลงทุน
#หุ้นไทย
#เซเว่น
References