ทำไมบางบริษัท P/E สูง แต่คนก็ยังลงทุน
7 พ.ค. 2024
คนที่ลงทุนในตลาดหุ้น คงเคยเห็นกันมาตลอดว่า หุ้นแต่ละตัวที่ซื้อขายอยู่ มีค่า P/E Ratio ไม่เท่ากัน
มีคำกล่าวว่า “หุ้นที่มี P/E Ratio ต่ำ คือหุ้นที่มีราคาถูก
และหุ้นที่มี P/E Ratio สูง คือหุ้นที่มีราคาแพง”
แต่จะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ หรือ..
หากสงสัยว่า จริง ๆ แล้ว P/E Ratio บอกอะไรเราได้บ้าง และเราควรระวังการวิเคราะห์ความถูก-แพงของหุ้น ด้วย P/E Ratio อย่างไร
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
P/E Ratio ย่อมาจากคำว่า Price to Earnings Ratio
เป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไร
เช่น หุ้น A มีราคา 10 บาทต่อหุ้น และมีกำไรสุทธิ 1 บาทต่อหุ้น ดังนั้นหุ้น A จึงมี P/E Ratio เท่ากับ 10 เท่า
โดย P/E Ratio เป็นสิ่งที่บอกเราว่า จากกำไรต่อหุ้นที่บริษัททำได้ ถ้าเราซื้อหุ้นที่ราคานี้ เราจะต้องใช้เวลากี่ปี จึงจะคืนทุน
อย่างกรณีของหุ้น A ที่มี P/E Ratio 10 เท่า ก็หมายถึง ถ้าเราซื้อหุ้น A ที่ราคา 10 บาทต่อหุ้น และหุ้น A ทำกำไรต่อหุ้นไปได้ 1 บาทต่อหุ้นทุกปี เราจะใช้เวลา 10 ปีในการคืนทุน
นอกจาก P/E Ratio จะบอกถึงระยะเวลาในการคืนทุนแล้ว ยังสะท้อนถึงความคาดหวังที่บรรดานักลงทุนมีต่อหุ้นตัวนี้ด้วย
เช่น ในหลายครั้งเราอาจจะเห็นหุ้นบางตัวมี P/E Ratio สูงถึง 100 เท่า แต่ก็ยังมีคนสนใจลงทุนอยู่
นั่นก็อาจจะเป็นเพราะว่า นักลงทุนส่วนใหญ่คิดว่า นี่คือหุ้นของบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตของกำไรสูง จึงแห่มาซื้อหุ้นตัวนี้กัน ส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นไปสูงมาก
ทำให้ P/E Ratio ที่สูง อาจจะไม่ได้หมายความว่าหุ้นตัวนั้นแพงเกินไปก็ได้ ถ้านั่นเป็นหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตของกำไรต่อหุ้น สูงมากจริง ๆ
เช่น หุ้น B เดิมมีราคา 100 บาทต่อหุ้น และมีกำไรสุทธิ 1 บาทต่อหุ้น ทำให้มี P/E Ratio 100 เท่า
ซึ่ง P/E Ratio 100 เท่านี้ เราเรียกว่า “Trailing P/E” เพราะเราใช้ราคาหุ้นปัจจุบัน หารด้วยกำไรสุทธิต่อหุ้น 4 ไตรมาสหลังสุด
แต่ถ้าหุ้น B เป็นหุ้นของบริษัทที่มีการเติบโตของกำไรสูงมาก ในอนาคตกำไรสุทธิต่อหุ้นของหุ้น B สามารถเติบโตไปได้สูงถึง 5 บาทต่อหุ้น
ดังนั้น จากราคาหุ้นปัจจุบัน เมื่อนำมาหารกำไรสุทธิต่อหุ้นในอนาคตแล้ว P/E Ratio จะลดลงเหลือแค่ 20 เท่า เท่านั้น
ซึ่ง P/E Ratio ที่ได้จากการนำราคาหุ้นในปัจจุบัน มาหารด้วยกำไรสุทธิต่อหุ้นที่เราคาดการณ์ในอนาคต เรียกว่า “Forward P/E”
จากตัวอย่างนี้เราคงเห็นแล้วว่า หุ้น B ที่เดิมมี P/E Ratio 100 เท่า ที่เราอาจจะคิดว่าเป็นหุ้นแพง แต่ถ้าพิจารณาถึงการเติบโตของกำไรต่อหุ้นแล้ว หุ้น B อาจจะไม่ได้เป็นหุ้นที่แพงเลยก็ได้
อย่างไรก็ตาม การดูทั้ง Trailing P/E และ Forward P/E ก็อาจจะยังไม่เพียงพอที่จะบอกเราว่า ถ้าเราซื้อหุ้น B เราจะได้ผลตอบแทนกลับมาคุ้มค่าเงินที่ลงทุนไปหรือไม่
ขั้นตอนต่อมาที่เราควรทำ คือการประเมินหามูลค่าที่แท้จริงของหุ้นนั่นเอง
ตัวอย่างเช่น ปัจจุบันเราเห็นหุ้น B ซื้อขายอยู่ที่ P/E Ratio 100 เท่า ด้วยราคา 100 บาทต่อหุ้น และมีกำไรสุทธิ 1 บาทต่อหุ้น
แต่ถ้าในอนาคต กำไรสุทธิของหุ้น B เพิ่มขึ้นเป็น 5 บาทต่อหุ้น และเราพิจารณาแล้ว พบว่าหุ้น B เป็นหุ้นของบริษัทที่มีคุณภาพสูง จึงควรมีค่า P/E Ratio ที่เหมาะสม อยู่ที่ 30 เท่า
เพราะฉะนั้น มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น B ที่เราคำนวณออกมาได้ จะเท่ากับ 150 บาทต่อหุ้น..
ถ้าเราซื้อหุ้น B ที่ราคาปัจจุบัน 100 บาทต่อหุ้น และถือรอจนถึงวันที่ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นไป จนสะท้อนถึงมูลค่าที่แท้จริง เราก็มีโอกาสจะได้ผลตอบแทนจากการลงทุนสูงถึง 50%
อ่านมาถึงตรงนี้ ก็เชื่อว่าเราคงพอเข้าใจกันดีมากขึ้นแล้วใช่ไหมว่า บางทีการที่เราเห็นหุ้นบางตัว กำลังซื้อขายกันในระดับ P/E Ratio ที่สูงมาก จนเราคิดว่าหุ้นตัวนี้ราคาแพงเกินไป
แต่ถ้าหุ้นตัวนั้น มีความสามารถในการเติบโตของกำไรได้สูงมาก หุ้นตัวนั้นอาจจะไม่ได้มีราคาแพงเลย
ทั้งนี้ การนำ P/E Ratio ไปใช้วิเคราะห์หุ้น ก็มีข้อจำกัดอยู่เหมือนกัน
เช่น หุ้นที่มี P/E Ratio สูง ก็ไม่ได้หมายความว่า ในอนาคตจะเป็นหุ้นที่มีการเติบโตของกำไรที่สูงทุกตัว
เพราะอย่าง Trailing P/E ก็ใช้กำไร 4 ไตรมาสหลังสุดมาคำนวณ ถ้าเกิดที่ผ่านมากำไรสุทธิของบริษัทลดลง แต่ราคาหุ้นไม่ลดตาม ค่า P/E Ratio ของบริษัท ก็จะกลายเป็นสูงขึ้นทันที
ซึ่งถ้าบริษัทมีคุณภาพการทำกำไรไม่ดีแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ในอนาคตราคาหุ้นก็จะต้องลดลง เพราะในระยะยาว ราคาหุ้นจะแปรผันตามความสามารถในการทำกำไรของบริษัทเสมอ
ในทางกลับกัน หุ้นที่มี P/E Ratio ต่ำ ก็ไม่ได้หมายความว่ากำไรของบริษัทจะเติบโตช้า แต่สาเหตุอาจจะมาจาก นักลงทุนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่รู้กันถึงคุณภาพของบริษัทก็ได้
ถ้าเราได้ซื้อหุ้นที่มี P/E Ratio ต่ำ แต่มีศักยภาพในการทำกำไรให้เติบโตได้สูงไปอีกหลายปี เราก็มีโอกาสจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนสูงมาก
สรุปแล้ว การดูแค่ P/E Ratio อย่างเดียว อาจจะไม่เพียงพอ เราก็ควรจะต้องวิเคราะห์คุณภาพที่แท้จริงของธุรกิจ ให้เข้าใจประกอบกันไปด้วย..
--------------------------
Sponsored by บล. Zcom
สนใจลงทุนในหุ้น เปิดบัญชีออนไลน์ไปกับ บล. Zcom
เทรดหุ้นด้วยค่าคอมฯ เพียง 0.065%* ไม่มีค่าคอมฯ ขั้นต่ำ เทรดเท่าไร จ่ายตามจริง
พร้อมใช้งานเครื่องมือการเทรด efin/Streaming ทุกฟังก์ชัน ฟรี !!
เปิดบัญชีได้เลยที่ >> https://bit.ly/3VUtOBZ
.
*อัตรานี้ยังไม่รวมค่าธรรมเนียมอื่น ๆ
**การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล ก่อนตัดสินใจลงทุน
.
Facebook: Zcom Securities
Line: @zcomsecurities (http://bit.ly/2TJtaIC)
#zcomsecurities