รู้จัก กลุ่ม “GRANOLAS” 11 หุ้นซูเปอร์สตาร์ จากยุโรป

รู้จัก กลุ่ม “GRANOLAS” 11 หุ้นซูเปอร์สตาร์ จากยุโรป

7 มี.ค. 2024
กลุ่มหุ้น 7 นางฟ้า หรือ Magnificent 7 ซึ่งก็คือเหล่าหุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ในสหรัฐอเมริกา ได้เป็นที่พูดถึงมาตลอด ตั้งแต่เปิดปีมานี้ 
ด้วยความที่กระแสของ AI และรถไฟฟ้า รวมถึงเทคโนโลยีอื่น ๆ กำลังมาแรง 
นั่นจึงทำให้ตัวเลขกำไรของหุ้นเหล่านี้ พากันโตระเบิด และผลักดันราคาหุ้นเหล่านี้ ให้พุ่งทะยานอย่างฉุดไม่อยู่ 
แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังสนใจหุ้นเหล่านั้น ที่ตอนนี้กำลังแพงขึ้นเรื่อย ๆ ในอีกฟากของทวีป ไม่ไกลจากสหรัฐอเมริกา ก็มีหุ้นอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งกำลังให้ผลตอบแทนดีไม่แพ้กัน 
นั่นก็คือ กลุ่มหุ้น “GRANOLAS” จากยุโรป นั่นเอง
แล้วหุ้น GRANOLAS คืออะไร และมีหุ้นไหนอยู่ในกลุ่มนี้บ้าง ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน ให้เข้าใจง่าย ๆ
หุ้น 7 นางฟ้า หรือ Magnificent 7 จากทางฝั่งสหรัฐอเมริกา ประกอบด้วย
Nvidia, Meta Platforms, Microsoft, Alphabet, Apple, Amazon และ Tesla
ในขณะที่ ในปี 2020 ทางธนาคาร Goldman Sachs ก็ได้จัดกลุ่มหุ้นใหญ่ของยุโรป ซึ่งมีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง, กำไรเติบโตดี และมีอัตรากำไรสูงอย่างสม่ำเสมอ จำนวน 11 ตัว ที่เรียกรวม ๆ กันว่า GRANOLAS
โดยหุ้นเหล่านั้น ประกอบไปด้วย 
- GlaxoSmithKline หรือ GSK บริษัทยา จากสหราชอาณาจักร 
- Roche Holding บริษัทยา จากสวิตเซอร์แลนด์ 
- ASML ผู้ผลิตเครื่องจักรผลิตชิป จากเนเธอร์แลนด์
- Nestlé บริษัทอาหารยักษ์ใหญ่ เจ้าของไมโล, โกโก้ครั้นช์ และนมตราหมี ที่คนไทยคุ้นเคย จากสวิตเซอร์แลนด์  
- Novartis บริษัทยาที่ใหญ่ติด Top 3 ของโลก จากสวิตเซอร์แลนด์ 
- Novo Nordisk ผู้ผลิตยารักษาโรคเบาหวาน จากเดนมาร์ก 
- L'Oréal ผู้ผลิตเครื่องสำอางระดับโลก จากฝรั่งเศส 
- LVMH อาณาจักรแบรนด์หรูที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากฝรั่งเศส 
- AstraZeneca บริษัทยาจากสหราชอาณาจักร หนึ่งในผู้วิจัยและผลิตวัคซีน ช่วงโรคระบาด 
- SAP ผู้ผลิตซอฟต์แวร์รายใหญ่ จากเยอรมนี 
- Sanofi บริษัทยา จากฝรั่งเศส 
จะเห็นได้ว่ากลุ่มหุ้น GRANOLAS นั้น มีความแตกต่างจากกลุ่มหุ้น 7 นางฟ้าเป็นอย่างมาก ตรงที่กลุ่มหุ้น GRANOLAS ไม่ได้มีเพียงแค่บริษัทเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว 
แต่กระจายกันอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งอุตสาหกรรมยา, แบรนด์หรู, อาหาร, เครื่องสำอาง และเทคโนโลยี 
นั่นจึงทำให้การลงทุนในกลุ่มหุ้น GRANOLAS นั้น มีข้อได้เปรียบจากการลงทุนมากกว่า ในกลุ่มหุ้น 7 นางฟ้าของสหรัฐอเมริกา อยู่ด้วยกันหลัก ๆ 3 เรื่อง 
1. มีการกระจายความเสี่ยงมากกว่า
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า กลุ่มหุ้น GRANOLAS กระจายตัวกันอยู่ในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ไม่ได้กระจุกตัวอยู่เพียงแค่อุตสาหกรรมเทคโนโลยี เพียงอย่างเดียว 
เพราะฉะนั้น ความเสี่ยงที่หุ้นจะปรับตัวลงทั้งกลุ่ม เวลาที่เกิดเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ เช่น การขึ้นดอกเบี้ย หรือเศรษฐกิจชะลอตัว จึงค่อนข้างน้อยกว่า
2. มูลค่ายังไม่แพงมาก 
ทางเว็บไซต์ Morningstar ได้ทำการเทียบ อัตราส่วน P/E ของกลุ่มหุ้น 7 นางฟ้า และกลุ่มหุ้น GRANOLAS ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบว่า
อัตราส่วน P/E ของหุ้น 7 นางฟ้านั้น อยู่ที่ 33.66 เท่า ในขณะที่เหล่าหุ้น GRANOLAS มีอัตราส่วน P/E อยู่ที่ประมาณ 31.13 เท่า เท่านั้น 
3. ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าดึงดูดกว่า
เหล่าหุ้น 7 นางฟ้า ต้องใช้เงินที่ได้มาจากธุรกิจ ไปกับการลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเอง เพื่อให้ทันต่อกระแสเทคโนโลยี ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จนแทบไม่เหลือเงินจ่ายปันผล 
ตรงกันข้ามกับ เหล่าหุ้น GRANOLAS ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมยา, อาหาร หรือแบรนด์หรู ที่ไม่ได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เงินที่ได้มาจากการทำธุรกิจ จึงสามารถนำมาจ่ายปันผลคืนให้กับผู้ถือหุ้นได้ 
เห็นได้จาก หุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล หรือ Dividend Yield ที่มากที่สุดของฝั่งหุ้น 7 นางฟ้าคือ Microsoft ยังอยู่ที่ 0.67% 
ในขณะที่ฝั่ง GRANOLAS หุ้นที่ให้ Dividend Yield มากที่สุดคือ บริษัท Sanofi อยู่ที่ 4.01% 
แล้วผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้น GRANOLAS ดีแค่ไหน ? 
ทาง Morningstar ได้ลองเทียบอัตราผลตอบแทนรวม จากการลงทุน ในกลุ่มหุ้น 7 นางฟ้า และกลุ่มหุ้น GRANOLAS ในช่วงปี 2021 จนถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา 
พบว่า ผลตอบแทนของหุ้น 7 นางฟ้านั้น ให้ผลตอบแทนรวมมากถึง 128% ในขณะที่หุ้น GRANOLAS ให้ผลตอบแทนรวม 103% 
แต่ในเรื่องของความเสี่ยงนั้น กลุ่มหุ้น GRANOLAS ถือว่าน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด 
เพราะกลุ่มหุ้น GRANOLAS ในช่วงที่ขาดทุนมากที่สุด ก็อยู่ที่ 24% เท่านั้น ในขณะที่กลุ่มหุ้น 7 นางฟ้า ในช่วงที่ขาดทุนมากที่สุด สามารถขาดทุนได้ถึง 47% เลยทีเดียว 
จากทั้งหมดนี้เอง จะเห็นได้ว่ากลุ่มหุ้น GRANOLAS นั้น มีความน่าสนใจ ไม่น้อยไปกว่าหุ้น 7 นางฟ้าในสหรัฐอเมริกา ที่กำลังวิ่งกันอย่างร้อนแรงอยู่ในตอนนี้
แม้ว่าในเรื่องของผลตอบแทนนั้น กลุ่มหุ้น GRANOLAS จะน้อยกว่าเหล่าหุ้น 7 นางฟ้า แต่ก็ยังมีข้อได้เปรียบอื่น ๆ อยู่ 
ไม่ว่าจะเป็นความผันผวนที่น้อยกว่า, มูลค่าที่ยังไม่แพงมาก และยังมีการจ่ายปันผลอยู่เรื่อย ๆ 
สุดท้ายนี้ถ้าหากถามว่า หุ้นกลุ่มไหนดีกว่ากัน ก็คงต้องขึ้นอยู่กับสไตล์การลงทุนของแต่ละคน โดยถ้าหากใครต้องการเติบโตอย่างรวดเร็ว การลงทุนในหุ้น 7 นางฟ้า ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่เหมาะกว่า 
แต่ถ้าหากใครอยากจะลงทุน ในหุ้นที่มีความผันผวนน้อยกว่า อย่างเช่น บริษัทในอุตสาหกรรมยา, อาหาร และแบรนด์หรู ในขณะที่ยังอยากทำผลตอบแทนอยู่ 
การลงทุนในกลุ่มหุ้น GRANOLAS ซึ่งเป็นหุ้นใหญ่ ฐานะการเงินแข็งแกร่ง แต่ราคายังไม่แพงมาก ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเหมือนกัน.. 
References
รู้จัก กลุ่ม “GRANOLAS” 11 หุ้นซูเปอร์สตาร์ จากยุโรป | MONEY LAB
กลุ่มหุ้น 7 นางฟ้า หรือ Magnificent 7 ซึ่งก็คือเหล่าหุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ในสหรัฐอเมริกา ได้เป็นที่พูดถึงมาตลอด ตั้งแต่เปิดปีมานี้
ด้วยความที่กระแสของ AI และรถไฟฟ้า รวมถึงเทคโนโลยีอื่น ๆ กำลังมาแรง
นั่นจึงทำให้ตัวเลขกำไรของหุ้นเหล่านี้ พากันโตระเบิด และผลักดันราคาหุ้นเหล่านี้ ให้พุ่งทะยานอย่างฉุดไม่อยู่
แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังสนใจหุ้นเหล่านั้น ที่ตอนนี้กำลังแพงขึ้นเรื่อย ๆ ในอีกฟากของทวีป ไม่ไกลจากสหรัฐอเมริกา ก็มีหุ้นอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งกำลังให้ผลตอบแทนดีไม่แพ้กัน
นั่นก็คือ กลุ่มหุ้น “GRANOLAS” จากยุโรป นั่นเอง
แล้วหุ้น GRANOLAS คืออะไร และมีหุ้นไหนอยู่ในกลุ่มนี้บ้าง ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน ให้เข้าใจง่าย ๆ
หุ้น 7 นางฟ้า หรือ Magnificent 7 จากทางฝั่งสหรัฐอเมริกา ประกอบด้วย
Nvidia, Meta Platforms, Microsoft, Alphabet, Apple, Amazon และ Tesla
ในขณะที่ ในปี 2020 ทางธนาคาร Goldman Sachs ก็ได้จัดกลุ่มหุ้นใหญ่ของยุโรป ซึ่งมีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง, กำไรเติบโตดี และมีอัตรากำไรสูงอย่างสม่ำเสมอ จำนวน 11 ตัว ที่เรียกรวม ๆ กันว่า GRANOLAS
โดยหุ้นเหล่านั้น ประกอบไปด้วย
GlaxoSmithKline หรือ GSK บริษัทยา จากสหราชอาณาจักรRoche Holding บริษัทยา จากสวิตเซอร์แลนด์ASML ผู้ผลิตเครื่องจักรผลิตชิป จากเนเธอร์แลนด์Nestlé บริษัทอาหารยักษ์ใหญ่ เจ้าของไมโล, โกโก้ครั้นช์ และนมตราหมี ที่คนไทยคุ้นเคย จากสวิตเซอร์แลนด์Novartis บริษัทยาที่ใหญ่ติด Top 3 ของโลก จากสวิตเซอร์แลนด์Novo Nordisk ผู้ผลิตยารักษาโรคเบาหวาน จากเดนมาร์กL'Oréal ผู้ผลิตเครื่องสำอางระดับโลก จากฝรั่งเศสLVMH อาณาจักรแบรนด์หรูที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากฝรั่งเศสAstraZeneca บริษัทยาจากสหราชอาณาจักร หนึ่งในผู้วิจัยและผลิตวัคซีน ช่วงโรคระบาดSAP ผู้ผลิตซอฟต์แวร์รายใหญ่ จากเยอรมนีSanofi บริษัทยา จากฝรั่งเศส
จะเห็นได้ว่ากลุ่มหุ้น GRANOLAS นั้น มีความแตกต่างจากกลุ่มหุ้น 7 นางฟ้าเป็นอย่างมาก ตรงที่กลุ่มหุ้น GRANOLAS ไม่ได้มีเพียงแค่บริษัทเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว
แต่กระจายกันอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งอุตสาหกรรมยา, แบรนด์หรู, อาหาร, เครื่องสำอาง และเทคโนโลยี
นั่นจึงทำให้การลงทุนในกลุ่มหุ้น GRANOLAS นั้น มีข้อได้เปรียบจากการลงทุนมากกว่า ในกลุ่มหุ้น 7 นางฟ้าของสหรัฐอเมริกา อยู่ด้วยกันหลัก ๆ 3 เรื่อง
มีการกระจายความเสี่ยงมากกว่า
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า กลุ่มหุ้น GRANOLAS กระจายตัวกันอยู่ในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ไม่ได้กระจุกตัวอยู่เพียงแค่อุตสาหกรรมเทคโนโลยี เพียงอย่างเดียว
เพราะฉะนั้น ความเสี่ยงที่หุ้นจะปรับตัวลงทั้งกลุ่ม เวลาที่เกิดเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ เช่น การขึ้นดอกเบี้ย หรือเศรษฐกิจชะลอตัว จึงค่อนข้างน้อยกว่า
มูลค่ายังไม่แพงมาก
ทางเว็บไซต์ Morningstar ได้ทำการเทียบ อัตราส่วน P/E ของกลุ่มหุ้น 7 นางฟ้า และกลุ่มหุ้น GRANOLAS ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบว่า
อัตราส่วน P/E ของหุ้น 7 นางฟ้านั้น อยู่ที่ 33.66 เท่า ในขณะที่เหล่าหุ้น GRANOLAS มีอัตราส่วน P/E อยู่ที่ประมาณ 31.13 เท่า เท่านั้น
ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าดึงดูดกว่า
เหล่าหุ้น 7 นางฟ้า ต้องใช้เงินที่ได้มาจากธุรกิจ ไปกับการลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเอง เพื่อให้ทันต่อกระแสเทคโนโลยี ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จนแทบไม่เหลือเงินจ่ายปันผล
ตรงกันข้ามกับ เหล่าหุ้น GRANOLAS ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมยา, อาหาร หรือแบรนด์หรู ที่ไม่ได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เงินที่ได้มาจากการทำธุรกิจ จึงสามารถนำมาจ่ายปันผลคืนให้กับผู้ถือหุ้นได้
เห็นได้จาก หุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล หรือ Dividend Yield ที่มากที่สุดของฝั่งหุ้น 7 นางฟ้าคือ Microsoft ยังอยู่ที่ 0.67%
ในขณะที่ฝั่ง GRANOLAS หุ้นที่ให้ Dividend Yield มากที่สุดคือ บริษัท Sanofi อยู่ที่ 4.01%
แล้วผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้น GRANOLAS ดีแค่ไหน ?
ทาง Morningstar ได้ลองเทียบอัตราผลตอบแทนรวม จากการลงทุน ในกลุ่มหุ้น 7 นางฟ้า และกลุ่มหุ้น GRANOLAS ในช่วงปี 2021 จนถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
พบว่า ผลตอบแทนของหุ้น 7 นางฟ้านั้น ให้ผลตอบแทนรวมมากถึง 128% ในขณะที่หุ้น GRANOLAS ให้ผลตอบแทนรวม 103%
แต่ในเรื่องของความเสี่ยงนั้น กลุ่มหุ้น GRANOLAS ถือว่าน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด
เพราะกลุ่มหุ้น GRANOLAS ในช่วงที่ขาดทุนมากที่สุด ก็อยู่ที่ 24% เท่านั้น ในขณะที่กลุ่มหุ้น 7 นางฟ้า ในช่วงที่ขาดทุนมากที่สุด สามารถขาดทุนได้ถึง 47% เลยทีเดียว
จากทั้งหมดนี้เอง จะเห็นได้ว่ากลุ่มหุ้น GRANOLAS นั้น มีความน่าสนใจ ไม่น้อยไปกว่าหุ้น 7 นางฟ้าในสหรัฐอเมริกา ที่กำลังวิ่งกันอย่างร้อนแรงอยู่ในตอนนี้
แม้ว่าในเรื่องของผลตอบแทนนั้น กลุ่มหุ้น GRANOLAS จะน้อยกว่าเหล่าหุ้น 7 นางฟ้า แต่ก็ยังมีข้อได้เปรียบอื่น ๆ อยู่
ไม่ว่าจะเป็นความผันผวนที่น้อยกว่า, มูลค่าที่ยังไม่แพงมาก และยังมีการจ่ายปันผลอยู่เรื่อย ๆ
สุดท้ายนี้ถ้าหากถามว่า หุ้นกลุ่มไหนดีกว่ากัน ก็คงต้องขึ้นอยู่กับสไตล์การลงทุนของแต่ละคน โดยถ้าหากใครต้องการเติบโตอย่างรวดเร็ว การลงทุนในหุ้น 7 นางฟ้า ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่เหมาะกว่า
แต่ถ้าหากใครอยากจะลงทุน ในหุ้นที่มีความผันผวนน้อยกว่า อย่างเช่น บริษัทในอุตสาหกรรมยา, อาหาร และแบรนด์หรู ในขณะที่ยังอยากทำผลตอบแทนอยู่
การลงทุนในกลุ่มหุ้น GRANOLAS ซึ่งเป็นหุ้นใหญ่ ฐานะการเงินแข็งแกร่ง แต่ราคายังไม่แพงมาก ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเหมือนกัน..
© 2024 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.