สรุปวิธีคำนวณภาษีปลายปีอย่างง่าย ด้วยกองทุนรวม | MONEY LAB

สรุปวิธีคำนวณภาษีปลายปีอย่างง่าย ด้วยกองทุนรวม | MONEY LAB

22 ธ.ค. 2023
-ซื้อ MEGA10CHINA กองทุน MEGA10CHINA-A, MEGA10CHINA-SSF, MEGA10CHINARMF ในช่วง IPO 21-26 ธ.ค. 2566 ซื้อได้ที่ บลจ.ทาลิส และ ผู้สนับสนุนการขาย หลายรายทั่วประเทศ เช่น InnovestX, Finnomena, Dime, Krungsri capital Securities ฯลฯ
ช่วงเวลาปลายปีแบบนี้ ก็เป็นเวลาที่ใครหลายคนกำลังมองหาวิธีลดหย่อนภาษี
หนึ่งในวิธีการลดหย่อนภาษีที่น่าสนใจ คือ การใช้สิทธิลดหย่อนภาษีผ่านการลงทุนกองทุนรวมประเภท SSF, RMF หรือกองทุนลดหย่อนประเภทใหม่อย่างกองทุน THAIESG
ลงทุนกองทุนแล้วใช้สิทธิลดหย่อนภาษี อย่างไร ? MONEY LAB จะเล่าเรื่องการเงิน ที่โรงเรียนไม่เคยสอน ให้เข้าใจ
ก่อนที่เราจะซื้อกองทุนรวมที่ใช้สิทธิลดหย่อนภาษี เราต้องสำรวจก่อนว่า เรามีรายได้เท่าไร ถึงเกณฑ์เสียภาษีในอัตราร้อยละเท่าไรของรายได้รวม
เนื่องจากการลดหย่อนภาษี เราสามารถใช้ค่าใช้จ่ายที่เราต้องจ่ายอยู่แล้วมาลดหย่อนได้หลายรายการ เช่น
- หักค่าใช้จ่ายสูงสุด 100,000 บาท
- หักค่าลดหย่อนส่วนตัวได้ 60,000 บาท
- หักค่าประกันสังคมได้สูงสุดไม่เกินปีละ 9,000 บาท
- หักค่าใช้จ่ายกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามจำนวนที่เราจ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15% ของรายได้รวม
นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ที่ใช้สำหรับลดหย่อนได้ เช่น เบี้ยประกันชีวิต และสุขภาพ, ค่าลดหย่อนพ่อ แม่ คู่สมรส หรือค่าลดหย่อนลูก
ซึ่งค่าใช้จ่ายลดหย่อนของแต่ละคนก็จะมากน้อยแตกต่างกันไป
ดังนั้นก่อนที่เราจะซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี เราก็ควรสำรวจค่าใช้จ่ายลดหย่อนของเราให้ดีเสียก่อน
โดยกองทุนลดหย่อนภาษีมีด้วยกัน 3 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีสิทธิลดหย่อนภาษี และเงื่อนไขในการลงทุนแตกต่างกันไป ดังนี้
1. กองทุน SSF ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท และต้องมีระยะเวลาลงทุน 10 ปี นับจากวันที่ซื้อ
กองทุน SSF สามารถลงทุนได้ทุกประเภทสินทรัพย์ตามนโยบายการลงทุนของกอง
2. กองทุน RMF ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน
โดยต้องถือหน่วยลงทุนจนถึงอายุ 55 ปี และต้องครบ 5 ปีนับจากวันที่ลงทุนครั้งแรก กองทุน RMF สามารถลงทุนได้ทุกประเภทสินทรัพย์ตามนโยบายการลงทุนของกองเช่นกัน
ทั้งนี้ รวม SSF RMF และกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ เราจะลดหย่อนภาษีจากการลงทุนนั้น รวมแล้วจะต้องไม่เกิน 500,000 บาท
3. กองทุน THAIESG เป็นกองทุนลดหย่อนภาษีน้องใหม่ เน้นลงทุนในหุ้นไทยกลุ่ม ESG ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ไม่นับรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ โดยต้องมีระยะเวลาการลงทุน 8 ปี นับแต่วันลงทุน
กองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ เช่น กองทุนประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนการออมแห่งชาติ, และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน เป็นต้น ที่มา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
แล้วกองทุนลดหย่อนภาษีตัวไหนที่น่าสนใจบ้าง ? วันนี้ MONEY LAB จะมานำเสนอกองทุนน้องใหม่อย่าง MEGA10CHINA-SSF และ MEGA10CHINARMF
ซึ่งกองทุนนี้จะเข้าไปลงทุนในบริษัทที่มีแบรนด์แข็งแกร่ง และมีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง
โดย MEGA10CHINA มีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง(Hong Kong Stock Exchange; HKEX) ซึ่งเป็นบริษัทที่เน้นความเป็นผู้นำในด้านตราสินค้า (Brand Value) ในกลุ่มTOP/BEST CHINESE BRANDS จากการจัดอันดับโดยบริษัทที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในเรื่องของการจัดอันดับดังกล่าว โดยผู้จัดการกองทุนจะคัดเลือกและพิจารณาเน้นลงทุนในตราสารทุนที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือกจำนวน 10 บริษัท
แต่จะไม่มีการลงทุนในบริษัทที่มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นรัฐบาลจีน เพราะมองว่าเป็นความเสี่ยงที่ประเมินได้ยาก
ดังนั้นแล้ว MEGA10CHINAก็จะประกอบไปด้วยหุ้นของธุรกิจที่ส่วนใหญ่เจ้าของเป็นผู้ก่อตั้งเอง บริหารเอง หลายบริษัท เรารู้จักกันเป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น
- Alibaba บริษัท E-Commerce ที่ใหญ่อันดับ 3 ของโลก
- Tencent Holdings บริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่ามากสุดของจีน
- Ping An Insurance บริษัทประกันยักษ์ใหญ่ของจีน
- BYD ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่อันดับ 4 ของโลก ที่กำลังรุกตลาดในไทยอย่างหนัก
- Nongfu Spring บริษัทน้ำดื่มใหญ่สุดในประเทศ ซึ่งมีเจ้าของเป็นคนที่รวยที่สุดในจีน
ทั้งนี้ ตัวอย่างบริษัทดังกล่าวสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามเกณฑ์การลงทุนและสภาวะการณ์การลงทุน ณ ขณะนั้น
กองทุน MEGA10CHINARMF เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการออมเงินเพื่อวัยเกษียณ และได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยเงินลงทุน สามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้
กองทุน MEGA10CHINA มีการแบ่งชนิดหน่วยลงทุนเป็น
ชนิดเพื่อการออม MEGA10CHINA-SSF เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการออมเงินระยะยาว และได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยเงินลงทุนในชนิดหน่วยลงทุนนี้ สามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้
ชนิดสะสมมูลค่า MEGA10CHINA-A เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนผ่านการเพิ่มมูลค่าของหน่วยลงทุนเป็นหลัก (Total Return)
โดย กองทุน MEGA10CHINA และ MEGA10CHINARMF จะ IPO ในวันที่ 21 – 26 ธันวาคม 2566 นี้
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถศึกษารายละเอียดและเริ่มต้นลงทุนได้ที่ บลจ.ทาลิส talisam.co.th 02-0150215, 02-0150216, 02-0150222 และ ผู้สนับสนุนการขาย 29 ราย
1.บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด
2.บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป จำกัด (มหาชน)
3.บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน)
4.บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)
5.บริษัทหลักทรัพย์ เว็ลธ์ เมจิก จำกัด
6.หลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)
7.บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน)
8.บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
9.บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด
10.บริษัท หลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
11.บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
12.บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
13.บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด
14.บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน โรโบเวลธ์ จำกัด
15.บริษัท หลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด
16.บริษัทหลักทรัพย์พาย จำกัด (มหาชน)
17.บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน แอสเซนด์ เวลธ์ จำกัด
18.บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เทรเชอริสต์ จำกัด
19.บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด
20.บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน)
21.บริษัทหลักทรัพย์ สยามเวลธ์ จำกัด
22.ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
23.บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด
24.บริษัทหลักทรัพย์ ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น จำกัด
25.บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด
26.บริษัท หลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ จำกัด
27.บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์สปริง จำกัด
28.บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
29.บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด
เพื่อประโยชน์ของท่านอย่าลืมลงทะเบียนขอใช้สิทธิลดหย่อนภาษีตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร ได้ที่ https://www.talisam.co.th/terms-and-conditions/
คำเตือน :
-กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ และการลงทุนในกองทุนรวมตราสารแห่งทุนอาจมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุนก่อนตัดสินใจลงทุน
-กองทุนนี้มีการลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และมีการลงทุนกระจุกตัวของหลักทรัพย์ หมวดอุตสาหกรรมและประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
-ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
© 2024 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.