CFA Institute องค์กรไม่แสวงหากำไร ที่มีรายได้ 10,000 ล้าน จากการจัดสอบ

CFA Institute องค์กรไม่แสวงหากำไร ที่มีรายได้ 10,000 ล้าน จากการจัดสอบ

19 ธ.ค. 2023
CFA Institute องค์กรไม่แสวงหากำไร ที่มีรายได้ 10,000 ล้าน จากการจัดสอบ | MONEY LAB
คนที่ทำงานสายการเงินการลงทุน คงไม่มีใครไม่รู้จัก CFA ซึ่งเป็นคุณวุฒิด้านการเงินการลงทุน ที่พัฒนาโดย CFA Institute
โดยคุณวุฒิ CFA เป็นคุณวุฒิที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ทำให้มีค่าสมัครสอบที่ค่อนข้างสูง
หากเราสมัครสอบครั้งแรก ค่าสมัครสอบจะมี 2 ส่วน คือ ค่าสอบ และค่าแรกเข้า รวมกันแล้วค่าสอบจะอยู่ที่ประมาณ 45,000-56,000 บาท
แล้ว CFA Institute ที่เก็บค่าสมัครสอบแพงขนาดนี้ จะมีรายได้ และกำไรเท่าไร ?
MONEY LAB จะเล่าเรื่องการเงิน ที่โรงเรียนไม่เคยสอน ให้เข้าใจ
CFA Institute เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1990 โดยเกิดจากการควบรวมองค์กร 2 แห่ง นั่นคือ Financial Analysts Federation (FAF) และ The Institute of Chartered Financial Analysts (ICFA)
ซึ่งองค์กรทั้ง 2 แห่งที่ถูกรวมเข้าด้วยกัน คือ องค์กรของนักวิเคราะห์ด้านการเงินการลงทุนในสหรัฐอเมริกา
โดยมีวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งคือ การสร้างมาตรฐานการทำงานด้านวิชาชีพการเงินการลงทุนทั่วโลก ผ่านการจัดการสอบและอบรมให้สมาชิก และการออกงานวิจัย
ซึ่งจริง ๆ แล้ว CFA Institute ไม่ได้มีการจัดสอบเฉพาะ CFA เท่านั้น แต่ยังมีการจัดสอบคุณวุฒิหลายอย่าง เช่น
CIPM Program หรือ The Certificate in Investment Performance Measurement Program คือการจัดสอบทักษะเฉพาะทาง ด้านการวัดผลการดำเนินงานของกองทุน การจัดทำรายงานด้านการลงทุน และการคัดเลือกผู้จัดการกองทุน สำหรับผู้ที่ทำงานด้านการลงทุนโดยเฉพาะCertificate in ESG Investing เป็นคุณวุฒิด้านการลงทุนตามหลัก ESGData Science for Investment Professionals Certificate เป็นคุณวุฒิสำหรับการใช้เทคนิควิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ในการตัดสินใจลงทุน
เราลองมาดูตัวเลขผู้สมัครสอบในแต่ละคุณวุฒิในช่วง 3 ปีย้อนหลังกัน
CFA Program
ปี 2020 มีผู้สมัครสอบทั่วโลก 102,200 รายปี 2021 มีผู้สมัครสอบทั่วโลก 214,900 รายปี 2022 มีผู้สมัครสอบทั่วโลก 262,400 ราย
CIPM Program
ปี 2020 มีผู้สมัครสอบทั่วโลก 950 รายปี 2021 มีผู้สมัครสอบทั่วโลก 1,500 รายปี 2022 มีผู้สมัครสอบทั่วโลก 900 ราย
ส่วนการจัดสอบ Certificate in ESG Investing เพิ่งเริ่มมีในปี 2022 โดยมีผู้สมัครสอบทั่วโลกอยู่ที่ 3,100 ราย
ซึ่งเมื่อนำรายได้ทั้งหมดของ CFA Institute ในปี 2022 มาคิดเป็นสัดส่วนแล้ว ก็จะได้ว่า
ค่าสมัครสอบ จำนวน 9,880 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 83%ค่าสมาชิกสมาคม CFA จำนวน 1,790 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 15%รายได้จากการลงทุน และอื่น ๆ จำนวน 212 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 2%
ทำให้ในปี 2022 CFA Institute มีรายได้รวมกันสูงถึง 11,882 ล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 1,860 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรอยู่ที่ 15.6%
แม้ CFA Institute จะเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร แต่ถ้าเรามองการดำเนินงานของ CFA Institute เป็นโมเดลธุรกิจ ก็จะพบว่ามีความน่าสนใจไม่น้อย
เพราะว่านอกจาก CFA Institute จะเก็บค่าสมัครสอบกับเราเป็นจำนวนเงินไม่น้อยแล้ว ยังเป็นการเก็บเงินล่วงหน้าก่อนสอบเป็นเวลาหลายเดือนอีกด้วย
ยกตัวอย่างเช่น หากเราต้องการสอบ CFA รอบเดือนพฤษภาคม ปี 2024
วันสุดท้ายของการสมัครคือ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2024
หรือก็คือ CFA Institute เก็บเงินจากเราล่วงหน้า อย่างน้อย 3 เดือน ก่อนถึงวันสอบจริง
ซึ่งเงินในส่วนนี้ จะถูกบันทึกลงในส่วนของหนี้สินในงบดุล เรียกว่า “รายได้รับล่วงหน้า”
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ในงบดุลของ CFA Institute มี “รายได้รับล่วงหน้า” คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 44.8% ของสินทรัพย์รวม
ซึ่งต้องบอกว่า ถึงแม้ “รายได้รับล่วงหน้า” จะถือเป็นหนี้สินในทางบัญชี แต่ความจริงแล้วมันก็คือกระแสเงินสดที่ไหลเข้ามาล่วงหน้านั่นเอง
และในความเป็นจริงแล้ว เงินจำนวนนี้มีโอกาสที่จะถูกเรียกคืนจากผู้สมัครสอบน้อยมาก เพราะ CFA Institute ไม่มีนโยบายคืนเงิน หากผู้สมัครเกิดเปลี่ยนใจอยากยกเลิกการสอบ
แล้ว CFA Institute นำเงินที่ได้รับล่วงหน้าจำนวนมหาศาลไปใช้ทำอะไร ?
เราก็ต้องไม่ลืมว่า CFA Institute คือ สมาคมของผู้มีคุณวุฒิทางด้านการลงทุน ดังนั้น เมื่อมีเงินสดจำนวนมาก ก็ย่อมหนีไม่พ้นต้องเอาเงินไปลงทุนให้งอกเงย
ซึ่งถ้าเราย้อนกลับไปดูงบดุลของบริษัทอีกครั้ง ก็จะพบว่า มีสินทรัพย์เพื่อการลงทุนในระยะยาว คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 68% ของสินทรัพย์รวมเลยทีเดียว
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ข้อมูลจาก CFA Institute ระบุว่า ผู้ที่สอบ CFA ผ่านจนถึงระดับ 3 จะมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 483,000 บาทต่อเดือน หรือ 5.8 ล้านบาทต่อปี..
© 2024 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.