ปันผล 150,000 ล้าน ขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ ในตลาดหุ้นไทย | MONEY LAB
การสร้างความมั่งคั่ง มีอยู่หลากหลายวิธี อย่างบางคนเลือกที่จะสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง หรือหลายคนก็เลือกที่จะเสี่ยงโชคกับลอตเตอรี่

และก็เป็นที่แน่นอนว่า การสร้างความมั่งคั่งในแต่ละรูปแบบนั้น ล้วนมีความเสี่ยงที่จะทำให้เราหมดเนื้อหมดตัวได้ทุกเมื่อ หากเราวางแผนได้ไม่ดีพอ

ถึงอย่างนั้น ก็มีกลุ่มคนเพียงไม่กี่คนในประเทศนี้ ที่รู้ว่ามีรูปแบบการหาผลตอบแทนที่ความเสี่ยงต่ำ แต่มีเงินรางวัลจำนวนมากรออยู่

นั่นก็คือ “ผลตอบแทนจากเงินปันผล” ที่มาจากบริษัทที่มีมูลค่ากิจการมากที่สุด 50 อันดับแรกในตลาดหุ้นไทย

แล้วทำไมผลตอบแทนลักษณะนี้ ถึงมีความเสี่ยงต่ำกว่าที่หลายคนคิด ?
MONEY LAB จะมาเล่าเรื่องการเงิน ที่โรงเรียนไม่เคยสอนให้เข้าใจ

โดยปกติแล้ว ธุรกิจใดก็ตามที่มีกำไร ก็มักจะแบ่งผลกำไรส่วนหนึ่งออกมาเป็น “เงินปันผล” ให้เจ้าของบริษัททุกคน

ไม่ว่าเราจะถือเพียงหุ้นเดียว หรือหนึ่งล้านหุ้นก็ตาม หากได้เข้าไปถือหุ้นแล้ว บริษัทก็ต้องจ่ายเงินปันผลให้เรา

เช่นเดียวกับเหล่าบริษัท ที่ใหญ่ที่สุด 50 อันดับแรกในตลาดหุ้นไทย หรือที่เรียกว่ากลุ่ม SET50 ที่เมื่อเอ่ยชื่อไปแล้ว ก็ล้วนเป็นธุรกิจที่อยู่รอบตัวเราทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น

-PTT บริษัทน้ำมันแห่งชาติของคนไทย

-CPALL เจ้าของร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven

-ADVANC ผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์ AIS

จะเห็นได้ว่าธุรกิจเหล่านี้มีความมั่นคงมาก เพราะหากขาดบริษัทเหล่านี้ไป เราน่าจะใช้ชีวิตกันอย่างยากลำบาก

หลายบริษัทมีรายได้นับแสนล้านบาท และกำไรแตะระดับหมื่นล้านบาท ทำให้ธุรกิจเหล่านี้ มักจะจ่ายเงินปันผลให้กับเจ้าของอย่างสม่ำเสมอ

รู้หรือไม่ว่า ในปีนี้บริษัทใน SET50 จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยรวมกันกว่า 150,000 ล้านบาท ถ้าหักภาษี ณ ที่จ่ายออกไป นักลงทุนจะได้รับเงินประมาณ 136,600 ล้านบาท

ตามนิยามของตลาดหลักทรัพย์ ผู้ถือหุ้นรายย่อย คือนักลงทุนที่ถือหุ้นรวมกันไม่เกิน 5% ของหุ้นทั้งหมดในบริษัท

โดยมีคนไทยเพียง 2.4 ล้านคนเท่านั้น ที่เปิดบัญชีซื้อขายหุ้น และถ้านับเฉพาะนักลงทุนรายย่อย ที่ลงทุนหุ้นที่อยู่ในดัชนี SET50 ด้วยแล้ว จำนวนคนก็น่าจะน้อยลงไปอีก

เห็นได้ชัดเจนเลยว่า ยังมีคนจำนวนน้อยของสังคมเท่านั้นที่มองเห็น และเข้ามารับผลประโยชน์ จากเงินก้อนนี้

เงินปันผล 150,000 ล้านบาทก้อนนี้ จึงเปรียบเสมือนขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในตลาดหุ้น และมีเพียงไม่กี่คนในประเทศเท่านั้นที่รู้

จริงอยู่ที่ว่า ผลตอบแทนจากเงินปันผล ไม่ใช่สิ่งที่ปราศจากความเสี่ยงเสียทีเดียว เพราะบริษัทไม่ได้ถูกบังคับว่าต้องจ่ายเงินปันผลทุกปี แม้จะมีกำไร

แต่เมื่อเป็นบริษัทขนาดใหญ่ 50 อันดับแรกของไทย ที่มีสถานะทางการเงินแข็งแกร่ง ความเสี่ยงในเรื่องนี้ ก็จะลดลงไปมาก

เพราะบริษัทเหล่านี้ จะมีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ให้ทั้งผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และรายย่อย

จากตรงนี้เอง จะเห็นได้ว่า ผลตอบแทนเงินปันผล ของบริษัทใหญ่ ๆ ในไทยนั้น เปรียบเสมือนเป็นเงินรางวัล ที่รอให้เราเข้าไปเก็บ

และด้วยความที่บริษัทเหล่านี้ สามารถทำกำไรได้ทุก ๆ ปี จึงทำให้แต่ละบริษัท จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ทุกปี ขุมทรัพย์ก้อนนี้จึงไม่มีวันหมดไปง่าย ๆ

เพราะฉะนั้น ถ้าเราอยากจะเข้าไปมีส่วนร่วม ในขุมทรัพย์นี้ สิ่งที่เราทำได้ง่ายที่สุดก็คือ การสะสมจำนวนหุ้นให้ได้มากที่สุด

ถึงแม้เงินปันผล ในหลาย ๆ ครั้งจะจ่ายไม่ถึงหนึ่งบาทต่อหุ้น แต่เมื่อคูณกับจำนวนหุ้น หลักหมื่น หรือหลักล้าน ก็อาจจะสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับเราได้ เมื่อได้เห็นตัวเลขเงินที่เข้าบัญชี

ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ปีนี้ PTTEP เป็นบริษัทที่จ่ายเงินปันผลมากที่สุดในตลาดหุ้นไทย คิดเป็นเงินปันผลที่จ่ายออกไปมากถึง 36,700 ล้านบาท

และคนที่ได้รับเงินปันผลไปมากที่สุดก็คือ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อย่าง PTT ที่รับเงินปันผลไปมากถึง 23,400 ล้านบาท..

หมายเหตุ: บทความนี้ไม่ได้ชี้นำให้ซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน

References
-https://www.set.or.th/th/market/information/securities-list/constituents-list-set50-set100
-https://www.set.or.th/th/market/statistics/market-statistics/trading-statistics