เปิดปัจจัยเบื้องหลัง ที่ทำให้ แสนสิริ ทำกำไรสูงสุด ในรอบ 40 ปี

เปิดปัจจัยเบื้องหลัง ที่ทำให้ แสนสิริ ทำกำไรสูงสุด ในรอบ 40 ปี

5 มี.ค. 2024
แสนสิริ x MONEY LAB
กว่า 40 ปีที่ แสนสิริ ยืนหยัดด้วยความแข็งแกร่ง และเป็นแบรนด์พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย ซึ่งในปี 2566 ที่ผ่านมานี้ แสนสิริ ก็สามารถสร้างปรากฏการณ์ ด้วยรายได้รวม 39,082 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 6,060 ล้านบาท
ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุด นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท หรือที่เรียกว่า All Time High แถมกำไรยังเติบโตขึ้นถึง 42% ที่เรียกได้ว่าเติบโตสูงที่สุดในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยอีกด้วย
เหตุผลที่ทำให้ แสนสิริ มีตัวเลขผลประกอบการที่โดดเด่น​ มาจาก 2 ปัจจัยหลัก ๆ ดังนี้
1. บุ๊กยอดโอนต่อเนื่องจากบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี และคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่
นอกจากแสนสิริ จะมีการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวในพอร์ตลักซ์ชัวรี ที่แสนสิริเป็นเจ้าตลาด อย่างเช่น โครงการนาราสิริ กรุงเทพกรีฑา, นาราสิริ พหล-วัชรพล, บูก้าน กรุงเทพกรีฑา, เศรษฐสิริ ดอนเมือง และบุราสิริ วัชรพล
แสนสิริยังขายและรับรู้รายได้ทันที จากคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ หรือ Ready to Move
เช่น โครงการเอ็กซ์ที พญาไท, เอ็กซ์ที ห้วยขวาง, โอกะ เฮ้าส์, เอดจ์ เซ็นทรัล พัทยา, เดอะ เบส เพชรบุรี-ทองหล่อ, ดีคอนโด พนา และเดอะ มูฟ บางนา
2. ลูกค้าเชื่อมั่นในแบรนด์แสนสิริ
หลากหลายโครงการที่กล่าวไปข้างต้น คงไม่ประสบความสำเร็จ หากลูกค้าไม่ได้มีความเชื่อมั่นใน “แบรนด์อันแข็งแกร่งของแสนสิริ”
โดยเฉพาะการครองใจกลุ่มลูกค้าลักซ์ชัวรี และซูเปอร์ลักซ์ชัวรี
ด้วยคุณภาพและบริการที่เหนือกว่าคู่แข่ง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ และส่งผลให้แสนสิริเป็นเบอร์หนึ่งของผู้นำอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี จนถึงปัจจุบัน
ทำให้แสนสิริมีผลประกอบการที่โดดเด่น สามารถมอบผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น ได้ถึง ​0.20 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็น อัตราผลตอบแทนเงินปันผล หรือ Dividend Yield สูงถึง 10.8% ซึ่งนับว่าสูงที่สุดในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เช่นกัน
โดยแสนสิริได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.10 บาทต่อหุ้น ในเดือนกันยายน ปี 2566
และกำลังจะจ่ายเงินปันผลอีก 0.10 บาทต่อหุ้น ในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้
ส่วนในด้านแผนธุรกิจในอนาคต แสนสิริ ยังคงเดินหน้าพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ด้วยการวางแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 46 โครงการ มูลค่า 61,000 ล้านบาท ภายในปี 2567 นี้
ซึ่งถือว่า มีมูลค่าสูงสุดในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
โดยโครงการในปีนี้ จะยังคงมุ่งเป้าไปที่กลุ่มลักซ์ชัวรี ซึ่งแสนสิริครองฐานลูกค้าในกลุ่มนี้และสิ่งที่เพิ่มเติมในภาพธุรกิจใหญ่ คือ การรุกหัวเมืองใหญ่ และเมืองท่องเที่ยวต่าง ๆ ในไทย เพื่อสร้างโอกาสใหม่ ๆ และเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันให้มากขึ้น
นอกจากนี้แสนสิริ ยังมีโครงการคอนโดมิเนียม ที่เตรียมโอนในปีนี้ถึง 10 โครงการ มูลค่ารวมกันกว่า 14,000 ล้านบาท ที่เตรียมปั้นเป็นรายได้ต่อในปีนี้
พร้อมทั้งตั้งเป้ายอดขาย และเป้าหมายยอดโอน ในปี 2567 ไว้ที่ 52,000 ล้านบาท และ 43,000 ล้านบาท ตามลำดับ
แน่นอนว่าการเติบโตตลอดกว่า 40 ปี ของแสนสิริ ต้องเดินควบคู่กับความแข็งแกร่งด้านการเงิน และการควบคุมวินัยทางการเงินเป็นอย่างดี ซึ่งทางแสนสิริได้ให้ความสำคัญมาโดยตลอด ด้วยการรักษาระดับสภาพคล่องอยู่ที่ 17,000 ล้านบาท
ทั้งหมดนี้เอง จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่แสนสิริ จะสามารถสร้างการเติบโตได้ อย่างเป็นปรากฏการณ์ใหญ่ในปีที่ผ่านมา และยังคงเดินหน้ารักษา ความเป็นผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทยต่อไป..
© 2024 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.