หาดทิพย์ ผลิตและขายโค้ก ในภาคใต้ รายได้ 7,000 ล้าน | MONEY LAB
ปัจจุบันนี้ ในประเทศไทย มีผู้ผลิตและจัดจำหน่าย เครื่องดื่มโคคา-โคล่า หรือโค้ก อยู่แค่เพียง 2 เจ้าเท่านั้น คือ
หาดทิพย์ ผลิตและขายโค้ก ในภาคใต้ รายได้ 7,000 ล้าน
2 ก.พ. 2024
บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ซึ่งดูแลพื้นที่ 63 จังหวัด ทั่วประเทศไทยบริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC ดูแลพื้นที่เฉพาะ 14 จังหวัด ในภาคใต้ของไทย
จุดเริ่มต้นของ HTC ต้องย้อนกลับไปในปี 2512
หรือเมื่อ 55 ปีก่อน
หรือเมื่อ 55 ปีก่อน
ซึ่งเป็นปีแรกที่โค้ก ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการ ในภาคใต้ของไทย
โดยในตอนนั้นมี บริษัท นครทิพย์ จำกัด เป็นเจ้าแรกที่ได้รับลิขสิทธิ์ ในการผลิตและจัดจำหน่าย ในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ สงขลา, สตูล และยะลา พร้อมกับมี บริษัท ไทยธนา จำกัด
จากนั้นในปี 2521 ทั้ง 2 บริษัทก็ได้ร่วมกันจัดตั้ง บริษัท หาดทิพย์ จำกัด ขึ้นมา
พร้อมกับได้รับลิขสิทธิ์ ให้เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มโค้ก เพิ่มอีก 11 จังหวัด รวมทั้งหมดเป็น 14 จังหวัด ในภาคใต้
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บริษัท หาดทิพย์ จำกัด จึงกลายเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มโคคา-โคล่า ในส่วนของพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ของไทย มาจนถึงปัจจุบัน
และแล้ว ในปี 2531 ทางบริษัทก็ได้แปรสภาพเป็น บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย..
สำหรับผลิตภัณฑ์ของ HTC แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ
ผลิตภัณฑ์น้ำอัดลม หรือ Sparkling Beverages
ประกอบด้วยแบรนด์ เช่น โคคา-โคล่า, สไปรท์, แฟนต้า และชเวปส์ ซึ่งคิดเป็นประมาณ 91% ของรายได้ทั้งหมด
ผลิตภัณฑ์ไม่อัดลม หรือ Still Beverages
ประกอบด้วยแบรนด์ เช่น น้ำดื่มน้ำทิพย์ และน้ำผลไม้มินิทเมด คิดเป็นอีก 9% ที่เหลือของรายได้
หากไปดูที่ผลประกอบการ จะพบว่า ในปี 2565
บริษัทมีรายได้จากการขาย 7,048 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 430 ล้านบาท
บริษัทมีรายได้จากการขาย 7,048 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 430 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการล่าสุด คือในช่วง 9 เดือนของปี 2566 จะเห็นได้ว่า
บริษัทมีรายได้จากการขาย 5,902 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน +14%กำไรสุทธิ 484 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +46%มียอดขายรวม 53,000,000 ลัง
นอกจากนี้ HTC ยังครองส่วนแบ่งทางธุรกิจ ของผลิตภัณฑ์อัดลมในภาคใต้ สูงถึง 79%..
และเมื่อเราไปย้อนดูผลประกอบการของ HTC จะพบว่า รายได้และกำไร เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง
ปี 2555 รายได้ 4,345 ล้านบาท กำไรสุทธิ 117 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้ 5,670 ล้านบาท กำไรสุทธิ 283 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 7,048 ล้านบาท กำไรสุทธิ 430 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้ 5,670 ล้านบาท กำไรสุทธิ 283 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 7,048 ล้านบาท กำไรสุทธิ 430 ล้านบาท
นอกจากนี้ ทั้งอัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรสุทธิของบริษัท ก็โตขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน
ปี 2555 HTC อัตรากำไรขั้นต้น 20% อัตรากำไรสุทธิ 2%
ปี 2560 HTC อัตรากำไรขั้นต้น 32% อัตรากำไรสุทธิ 5%
ปี 2565 HTC อัตรากำไรขั้นต้น 40% อัตรากำไรสุทธิ 6%
ปี 2560 HTC อัตรากำไรขั้นต้น 32% อัตรากำไรสุทธิ 5%
ปี 2565 HTC อัตรากำไรขั้นต้น 40% อัตรากำไรสุทธิ 6%
จะเห็นได้ว่า การที่บริษัทมีอัตราส่วนเหล่านี้เติบโตขึ้น ก็สามารถวิเคราะห์ได้ว่า นอกจากบริษัทจะมีผลการดำเนินงาน เช่น รายได้และกำไร เติบโตขึ้นแล้ว
บริษัทยังสามารถควบคุมต้นทุน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี จนสะท้อนออกมาที่ อัตราส่วนความสามารถในการทำกำไรของบริษัท ซึ่งกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเอง..
References
รายงานประจำปี 2565 และงบการเงินของ บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน)Opportunity Day ไตรมาส 3 ปี 2566 บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน)