ป้าแอนน์ ไชเบอร์ ลงทุนหลังเกษียณ สร้างผลตอบแทน 4,400 เท่า ใน 50 ปี | MONEY LAB
หลาย ๆ คนอาจติดภาพว่า การลงทุนเป็นเรื่องที่ยาก และต้องใช้สูตรคำนวณอะไรเต็มไปหมด ถึงจะประสบความสำเร็จ
ป้าแอนน์ ไชเบอร์ ลงทุนหลังเกษียณ สร้างผลตอบแทน 4,400 เท่า ใน 50 ปี
1 ธ.ค. 2023
แต่จริง ๆ แล้ว การลงทุนให้ประสบความสำเร็จได้นั้น อาจจะไม่ต้องใช้ความสามารถสูงเท่ากับเซียนหุ้นหลาย ๆ คน และเรียบง่ายมากกว่าที่เราคิด
ซึ่งบทความนี้จะพาไปรู้จักกับ หนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมาก แต่มีแนวคิดเรื่องการลงทุนและการใช้ชีวิตที่แสนจะเรียบง่าย
เรากำลังพูดถึง ป้าแอนน์ ไชเบอร์ ที่เริ่มลงทุนอย่างจริงจัง ตอนอายุ 51 ปี
และสามารถสร้างเงินลงทุนให้เติบโตกว่า 4,400 เท่า ในช่วงเวลาประมาณ 50 ปีได้
และสามารถสร้างเงินลงทุนให้เติบโตกว่า 4,400 เท่า ในช่วงเวลาประมาณ 50 ปีได้
เรื่องราวของป้าแอนน์ ไชเบอร์ เป็นอย่างไร ?
MONEY LAB จะเล่าเรื่องการเงิน ที่โรงเรียนไม่เคยสอน ให้เข้าใจ
MONEY LAB จะเล่าเรื่องการเงิน ที่โรงเรียนไม่เคยสอน ให้เข้าใจ
ป้าแอนน์ เกิดในเมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ปี 1893 ในครอบครัวที่มีฐานะไม่ดีนัก ทำให้ป้าแอนน์ต้องทำงานตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น เพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ
แต่ป้าแอนน์ก็ไม่ได้ทิ้งการเรียน โดยเธอสามารถเรียนจบจากมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน ในสาขากฎหมายได้
และเข้าทำงานเป็นพนักงานตรวจภาษีให้กับหน่วยงานของรัฐ ในเมืองนิวยอร์ก เมื่อปี 1924
การทำงานของป้าแอนน์นั้น ถือว่าเป็นพนักงานตัวอย่างเลยก็ว่าได้ แต่ถึงกระนั้น ตลอดช่วงชีวิตการทำงาน ป้าแอนน์ไม่เคยได้รับค่าจ้างเกิน 3,150 ดอลลาร์สหรัฐเลย
ซึ่งเงินเท่านี้ถือว่าน้อย สำหรับพนักงานอย่างป้าแอนน์
ซึ่งเงินเท่านี้ถือว่าน้อย สำหรับพนักงานอย่างป้าแอนน์
พอเป็นแบบนี้ ป้าแอนน์จึงรู้สึกว่า ตนเองถูกแบ่งแยกจากสังคมการทำงาน เพียงเพราะว่าตนเองเป็นผู้หญิง
ในช่วงที่ทำงานอยู่นั้น ป้าแอนน์ก็มีการลงทุนในตลาดหุ้นด้วย แต่ก็ต้องขาดทุนอย่างหนักไปในปี 1930 ตอนที่เกิดเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในสหรัฐอเมริกา
โดยการลงทุนในครั้งนั้น ป้าแอนน์ฟังคำแนะนำจากโบรกเกอร์เป็นหลัก
ป้าแอนน์ทำงานจนอายุ 51 ปี จึงเกษียณ โดยมีเงินเก็บสะสมไว้ประมาณ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ และตัดสินใจกลับไปลงทุนในตลาดหุ้นอีกครั้ง
แต่การกลับมาครั้งนี้ ป้าแอนน์ได้ศึกษาและเริ่มลงทุนอย่างเป็นจริงเป็นจังด้วยตัวของเธอเอง พร้อมกับใช้ความรู้ที่สั่งสมมาจากการทำงานด้านภาษี ทำให้เธอมีความเข้าใจในบางธุรกิจ และพอจะอ่านงบการเงินเบื้องต้นได้
โดยหลักการลงทุนของป้าแอนน์ ถือว่าเรียบง่ายมาก ๆ ประกอบไปด้วย
ลงทุนในบริษัท ที่มีแบรนด์สินค้าที่มีชื่อเสียง
ป้าแอนน์จะลงทุนแค่ในบริษัท ที่มีสินค้าที่ตัวป้าแอนน์และคนอื่นรู้จักกันอย่างดี และยังเป็นสินค้าที่มีโอกาสได้ใช้ตลอด
เช่น หุ้น Coca-Cola, Pepsi และ Schering-Plough ซึ่งเป็นบริษัทขายยา รวมไปถึง หุ้น Columbia Pictures และ Paramount Pictures เนื่องจากป้าแอนน์ชอบดูหนัง
แต่นอกจากแบรนด์จะเป็นที่รู้จัก บริษัทจะต้องมีผลประกอบการที่ดี และกำไรเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี อีกด้วย
ลงทุนและถือยาว
เมื่อป้าแอนน์ซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่งแล้ว เธอก็มักจะถือเก็บไว้หลายปี เนื่องจากเป็นกิจการที่ตนเองเชื่อมั่นว่ามีคุณภาพ
และในช่วงที่ตลาดหุ้นเป็นขาลง ราคาหุ้นตกทั้งตลาด ป้าแอนน์ก็จะซื้อหุ้นดังกล่าวเพิ่มได้ในราคาที่ถูก
และเมื่อได้เงินปันผลจากหุ้นที่ถืออยู่ ป้าแอนน์ก็จะนำเงินที่ได้นั้น ไปซื้อหุ้นตัวเดิมเพิ่มอีก หรือที่เรียกว่า Reinvestment เพื่อให้ผลตอบแทนทบต้นไปเรื่อย ๆ ในกรณีที่หุ้นมีการเติบโต
ทั้งนี้ เหตุผลอีกส่วนหนึ่งที่ป้าแอนน์ไม่ค่อยขายหุ้น ก็อาจจะมาจากการที่ อัตราภาษีของกำไรจากการขายหุ้น ในสหรัฐอเมริกานั้นสูงมากด้วย
ศึกษาบริษัทที่ลงทุน อยู่ตลอดเวลา
เมื่อซื้อหุ้นแล้ว ป้าแอนน์ก็มักจะไปเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อศึกษาข้อมูลอยู่เสมอ
โดยป้าแอนน์ มักจะซักถามข้อมูลจากผู้บริหาร และยังอ่านบทความวิเคราะห์บริษัท อยู่เป็นประจำ
ซึ่งการที่ป้าแอนน์เคยทำงานเกี่ยวกับภาษีมาก่อน ก็มีส่วนช่วยให้เธอวิเคราะห์บริษัทได้ดีขึ้นด้วย
ประหยัด
วิถีชีวิตที่ประหยัดแบบสุดโต่ง เรียกว่าเป็นเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัวของป้าแอนน์อย่างหนึ่ง
โดยป้าแอนน์เป็นโสดตลอดชีวิต และอาศัยอยู่ในห้องอะพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ ค่าเช่าไม่แพง
ในแต่ละวัน ป้าแอนน์ใช้จ่ายเงินในการซื้อของต่าง ๆ น้อยมาก โดยป้าแอนน์มักจะเลือกเดิน แทนที่จะใช้รถสาธารณะ และแทบไม่ซื้อเสื้อผ้าใหม่เลย
และเมื่อมีโอกาสได้ไปประชุมผู้ถือหุ้น ป้าแอนน์ก็มักจะไปกินอาหารฟรี ทั้งยังห่ออาหารกลับมากินที่บ้านด้วย เพื่อความประหยัด
ถึงแม้หลักการลงทุนที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดจะเรียบง่าย แต่ป้าแอนน์ก็สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้มาก
ตอนป้าแอนน์เริ่มลงทุน ตอนอายุ 51 ปี
มีเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ
มีเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ
แต่เมื่อป้าแอนน์เสียชีวิต ขณะอายุ 101 ปี
พอร์ตของป้าแอนน์ มีมูลค่าถึง 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หรือคิดเป็นการเติบโตกว่า 4,400 เท่า
พอร์ตของป้าแอนน์ มีมูลค่าถึง 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หรือคิดเป็นการเติบโตกว่า 4,400 เท่า
ในขณะที่ป้าแอนน์มีชีวิตอยู่นั้น แทบไม่มีใครรู้จักเธอ
แต่เมื่อเธอเสียชีวิต เงินจากการลงทุนทั้งหมดถูกนำไปบริจาค ให้มหาวิทยาลัยเยชิวา เพื่อช่วยเหลือผู้หญิงที่ด้อยโอกาสเหมือนเธอ จึงทำให้เรื่องราวของป้าแอนน์นั้นโด่งดังขึ้นมา
แต่เมื่อเธอเสียชีวิต เงินจากการลงทุนทั้งหมดถูกนำไปบริจาค ให้มหาวิทยาลัยเยชิวา เพื่อช่วยเหลือผู้หญิงที่ด้อยโอกาสเหมือนเธอ จึงทำให้เรื่องราวของป้าแอนน์นั้นโด่งดังขึ้นมา
พออ่านเรื่องราวของป้าแอนน์แล้ว หลายคนที่เคยติดภาพว่า คนที่ประสบความสำเร็จในการลงทุน จะต้องมีหลักคณิตศาสตร์หรือแนวคิดที่ซับซ้อนมาก ก็อาจเริ่มเปลี่ยนความคิด ว่าการลงทุนนั้นอาจเรียบง่ายกว่าที่คิด
แต่ต้องศึกษาในสิ่งที่เราจะลงทุนอย่างสม่ำเสมอ จนมีความมั่นใจในสิ่งนั้น รวมทั้งอดทนที่จะลงทุนให้ได้นานพอ
และเชื่อว่า เราสามารถนำตัวอย่างของป้าแอนน์ มาใช้ในการลงทุนได้อย่างแน่นอน..
References
-หนังสือ ลงทุนแบบป้าแอนน์ โดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
-https://en.wikipedia.org/wiki/Anne_Scheiber
-https://moneyweek.com/474568/the-worlds-greatest-investors-anne-scheiber
-หนังสือ ลงทุนแบบป้าแอนน์ โดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
-https://en.wikipedia.org/wiki/Anne_Scheiber
-https://moneyweek.com/474568/the-worlds-greatest-investors-anne-scheiber