รู้จักกลยุทธ์ จัดพอร์ตแบบ 90/10 ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์

รู้จักกลยุทธ์ จัดพอร์ตแบบ 90/10 ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์

30 พ.ย. 2023
รู้จักกลยุทธ์ จัดพอร์ตแบบ 90/10 ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ | MONEY LAB
ถ้าพูดถึงนักลงทุนชื่อดังระดับโลก
แน่นอนว่าต้องมีชื่อของ “คุณวอร์เรน บัฟเฟตต์” รวมอยู่ด้วย
โดยตั้งแต่ปี 1965 จนถึงปัจจุบัน คุณบัฟเฟตต์สามารถทำผลตอบแทนได้สูงถึง 19.8% ต่อปี
แม้ว่าเราอาจไม่ได้คาดหวังผลตอบแทนที่สูงเท่ากับที่คุณบัฟเฟตต์ทำได้ แต่หนึ่งในกลยุทธ์การลงทุนที่น่าสนใจของนักลงทุนระดับตำนานคนนี้คือ “กลยุทธ์ 90/10”
ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่แสนจะเรียบง่าย แต่สามารถทำผลตอบแทนได้ไม่ธรรมดาเช่นกัน
แล้วกลยุทธ์ 90/10 คืออะไร ?
MONEY LAB จะเล่าเรื่องการเงิน ที่โรงเรียนไม่เคยสอน ให้เข้าใจ
คุณวอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้เขียนถึงกลยุทธ์ 90/10 นี้ครั้งแรกในจดหมายที่ส่งให้แก่ผู้ถือหุ้น Berkshire Hathaway ในปี 2013
โดยในจดหมายดังกล่าว คุณบัฟเฟตต์ ได้แนะนำให้ผู้จัดการทรัพย์สินของเขา ใช้กลยุทธ์ 90/10 ในการบริหารการลงทุน ถ้าหากคุณบัฟเฟตต์เสียชีวิตไปแล้ว
โดยใจความหลักของกลยุทธ์นี้คือ ให้นักลงทุนแบ่งเงินออกเป็น 2 ส่วน และไปลงทุนใน 2 สินทรัพย์
เงินก้อนแรก ที่คิดเป็น 90% ของเงินลงทุนทั้งหมด ให้ไปลงทุนในกองทุนดัชนี โดยในจดหมายของคุณบัฟเฟตต์ ได้พูดถึงกองทุนดัชนี S&P 500
ซึ่งข้อดีของกองทุนแบบนี้คือ มีค่าธรรมเนียมการบริหารกองทุนที่ต่ำ เพราะใช้วิธีบริหารจัดการการลงทุน ให้ล้อไปกับดัชนีเพียงเท่านั้น หรือที่เรียกว่า Passive Fund
ต่างจากกองทุนที่มีการบริหารการลงทุนเชิงรุก หรือ Active Fund ที่ต้องใช้ความสามารถของผู้บริหารกองทุน จึงมีค่าธรรมเนียมที่สูง
โดยคุณบัฟเฟตต์เชื่อว่า ค่าธรรมเนียมของกองทุนรวมนั้น ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนในระยะยาวของนักลงทุน
นอกจากนี้ ในมุมมองของคุณบัฟเฟตต์ ยังมองว่า มีผู้จัดการการลงทุนเพียงไม่กี่รายที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่เอาชนะกองทุนดัชนีได้ในระยะยาว ดังนั้น นักลงทุนจึงควรที่จะนำเงินไปลงทุนในกองทุนดัชนีจะดีกว่า
เงินก้อนที่เหลืออีก 10% ให้ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้น เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ และราคามีความผันผวนน้อย
นอกจากนี้ พันธบัตรรัฐบาลยังถือเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง จึงสามารถเปลี่ยนเป็นเงินมาใช้ในกรณีฉุกเฉินด้วย
ซึ่งการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลนั้น ยังสามารถลงทุนผ่าน กองทุนรวมที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลได้เช่นกัน
คำถามที่น่าสนใจต่อมาคือ แล้วถ้าเรานำเงินไปลงทุนตามทฤษฎีของคุณบัฟเฟตต์ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
ผลตอบแทนจากการลงทุนจะเป็นอย่างไร ?
สมมุติว่าเรามีเงินอยู่ 1,000,000 บาท แล้วใช้กลยุทธ์ดังกล่าว แบ่งเป็น
900,000 บาท ไปลงทุนในกองทุนดัชนี S&P 500
โดยใช้ข้อมูลของ iShares Core S&P 500 ETF 10 ปีที่ผ่านมา ผลตอบแทนของกองทุนนี้เท่ากับ 11.12% ต่อปี100,000 บาท ไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี โดย 10 ปีที่ผ่านมา ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ รุ่นนี้เท่ากับ 1.56% ต่อปี
ดังนั้น ผลตอบแทนรวมของเงินลงทุนเราจะเท่ากับ
(90%)(11.12%) + (10%)(1.56%) = 10.20% ต่อปี
เมื่อผ่านไป 10 ปี เงินจำนวนนี้จะกลายเป็น 2,641,289 บาท
อ่านมาถึงตรงนี้ กลยุทธ์ 90/10 ถือเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่ไม่ยุ่งยากและซับซ้อน ซึ่งนักลงทุนทั่ว ๆ ไปก็สามารถนำไปทำตามได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่กลยุทธ์ดังกล่าว มีการลงทุนในหุ้นสัดส่วนที่สูง ดังนั้น จึงอาจจะไม่เหมาะกับนักลงทุนบางคน ที่รับความเสี่ยงมากไม่ได้
สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย รวมถึงผู้ที่มีระยะเวลาการลงทุนไม่นาน ก็อาจนำสัดส่วนดังกล่าวไปปรับใช้
โดยลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น และเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลมากขึ้น เช่น 80/20 หรือ 60/40 ก็ได้เช่นกัน..
Sponsored by JCB
สัมผัสประสบการณ์ที่มากกว่ากับ บัตรเครดิต JCB
ที่มาพร้อมสิทธิพิเศษดี ๆ เพลิดเพลินทั้ง กิน เที่ยว ช้อป ในไทยและต่างประเทศ
พร้อมกับการให้บริการสุดพิถีพิถันทุกรูปแบบ
Facebook : JCB Thailand
LINE : @JCBThailand (https://bit.ly/JCBTHLine)
JCBThailand #JCBCardJCBOwnHappinessOwnStory #อีกขั้นของความสุขในรูปแบบที่เป็นตัวคุณ
© 2024 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.