ในช่วงหลายปีมานี้ ราคาของนาฬิกาแบรนด์หรู ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทำให้คนรวยหลายคนมองว่า การซื้อนาฬิกาหรู เป็นการลงทุนทางเลือกที่ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า
ไม่แพ้การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือการลงทุนในหุ้นเลย

นอกจากนั้นแล้ว นักลงทุนหลายคนยังมีความเชื่อที่ว่า สินค้าหรูหรา สามารถปรับราคาเพิ่มขึ้นตามเงินเฟ้อได้

แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์ตอนนี้ กำลังจะเปลี่ยนไป
เพราะราคาของนาฬิกาแบรนด์หรู เช่น Rolex, Omega และ Patek Philippe
ที่วางขายในตลาดมือสองต่างปรับตัวลดลง เฉลี่ยแล้วเกินกว่า 10%

รู้หรือไม่ว่า หากเราซื้อนาฬิกา Rolex ราคาราว 580,000 บาท ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา
แล้วเราต้องการขายนาฬิกาตอนนี้ เราจะขาดทุน 16% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 93,000 บาท
ภายในระยะเวลา 4 เดือนเท่านั้น

เกิดอะไรขึ้นกับตลาดนาฬิกาหรูมือสอง
แล้วในอนาคตความต้องการสินค้าเหล่านี้ จะเป็นอย่างไร ?

นับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2021 สินทรัพย์เสี่ยงหลายประเภท ต่างกลับตัวเป็นขาลง
เริ่มต้นจากตลาดคริปโทเคอร์เรนซี มาจนถึงตลาดหุ้นในหลายประเทศทั่วโลก

นาฬิกาหรูมือสอง เป็นหนึ่งในการลงทุนทางเลือกที่หลายคนให้ความสนใจ
แถมสินทรัพย์กลุ่มนี้ยังคงสร้างผลตอบแทนได้ดีในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้

แม้ว่าราคาขายนาฬิกาหรูมือสองยังคงปรับตัวสูงขึ้นได้ แต่ปริมาณการซื้อขายนาฬิกาหรูกลับลดลง
สะท้อนถึงความต้องการนาฬิกาหรู ที่เริ่มชะลอตัวลงแล้ว

ไม่นานหลังจากนั้น ราคาซื้อขายนาฬิกาหรูมือสอง ก็เริ่มปรับตัวลดลง
เป็นสัญญาณว่า แม้จะเป็นสินค้าหรูหรา แต่เมื่อไม่มีความต้องการซื้อ
ราคาก็สามารถกลับตัวเป็นขาลงได้เช่นกัน

แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ราคาของนาฬิกาหรูมือสองสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่ราคาของนาฬิกาหรูมือสองปรับตัวลดลง แถมยังเป็นการปรับตัวลดลงแรงอีกด้วย

โดยสาเหตุสำคัญที่พอจะอธิบายปรากฏการณ์นี้ได้ ก็คือราคานาฬิกาหรูมือสองถูกผลักดันด้วยเหล่าเศรษฐีใหม่ ที่สร้างตัวมาจากอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี ตลอดช่วงที่ผ่านมา

พอตลาดคริปโทเคอร์เรนซีเริ่มซบเซา และมูลค่าของแทบจะทุกคริปโทเคอร์เรนซี ปรับตัวลดลงแรง
เศรษฐีเหล่านี้จึงต้องการขายนาฬิกาหรู เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง

นักวิเคราะห์ต่างประเทศเคยประเมินไว้ว่า ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นจากคริปโทเคอร์เรนซี
มีส่วนช่วยกระตุ้นยอดขายให้นาฬิกาหรูมากถึง 25-30%

ในขณะเดียวกัน อัตราเงินเฟ้อที่รุนแรงในรอบหลายทศวรรษ
ทำให้ลูกค้าบางกลุ่มลังเลที่จะใช้จ่ายกับสินค้าฟุ่มเฟือย

เมื่อทั้งสองเหตุการณ์มาบรรจบกัน ทำให้ราคาของนาฬิกาหรูมือสองเริ่มปรับตัวลดลง

ทางฝั่งประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของสินค้าหรูหรา
เพราะมีจำนวนประชากรที่มีฐานะร่ำรวยสูงติดอันดับโลก
ก็เจอกับวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ความมั่งคั่งของคนจีนหายไป

ขณะเดียวกัน จีนก็เริ่มมีผู้ติดเชื้อโควิด 19 สูงขึ้น และรัฐบาลก็ยังยึดมั่นกับนโยบายปิดเมือง
ทำให้เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันการใช้จ่ายสินค้าหรูหรา

อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบกับการลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ
ราคาของนาฬิกาแบรนด์หรูก็ยังปรับตัวลดลงน้อยกว่า

เพราะอย่างน้อย สินค้าแบรนด์เนมก็เป็นหนึ่งในสินทรัพย์เพียงไม่กี่อย่าง ที่สามารถสร้างคุณค่าทางจิตใจและภาพลักษณ์ทางสังคม ที่ไม่เหมือนกับสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ..

References
-https://beincrypto.com/luxury-watch-prices-decline-as-crypto-wealthy-come-under-pressure/
-https://millenarywatches.com/luxury-watch-prices-dropping-guide/
-https://watchcharts.com/watches/brand_index
-https://themarketherald.com.au/fancy/investment-insight-the-secondhand-luxury-watch-market-is-thriving/
-https://www.jankreiser.com/watchindex