CPN x MONEY LAB

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ประกาศผลประกอบการประจำปี 2567 ออกมาแล้ว

โดย CPN มีรายได้รวมอยู่ที่ 51,843 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตจากปีก่อน 11% นับเป็นตัวเลขรายได้ที่มากที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา

ขณะที่กำไรสุทธิของบริษัทอยู่ที่ 16,729 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 11% นับเป็นกำไรสุทธิที่มากที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมาเช่นกัน

เป็นผลมาจากรายได้ค่าเช่าและบริการในศูนย์การค้าเดิมที่เติบโต จากการทำกิจกรรมการตลาดกระตุ้นยอดขาย

และการเปิด 2 มิกซ์ยูสใหม่ คือ เซ็นทรัล นครสวรรค์ และเซ็นทรัล นครปฐม

รวมไปถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานตามแผนงานต่าง ๆ เช่น การติดตั้งแผงผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ และอัตราค่าไฟที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

นอกจากนี้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนสุทธิ ที่ปรับตัวดีขึ้น ก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ CPN สามารถสร้างผลประกอบการที่เติบโตแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้

ซึ่งรายได้รวมของ CPN มาจากการเติบโตของทั้ง 4 ธุรกิจหลักของบริษัท คือ

1. ธุรกิจให้เช่าและบริการ มีรายได้อยู่ที่ 40,896 ล้านบาท เติบโต 10% จากปีก่อน มาจากการเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ และรายได้ของผู้เช่าในศูนย์การค้าที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่ส่วนธุรกิจให้เช่าอาคารสำนักงานก็ยังมีอัตราการเช่าพื้นที่สูงถึง 90% แสดงให้เห็นถึงความนิยมในออฟฟิศติดศูนย์การค้า ที่ตอบโจทย์ในการใช้ชีวิตครบวงจร

2. ธุรกิจบริการศูนย์อาหาร มีรายได้อยู่ที่ 1,092 ล้านบาท เติบโต 19% จากปีก่อน ตามศูนย์อาหารที่เพิ่มขึ้นในศูนย์การค้าที่เปิดใหม่ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้บริการ

3. ธุรกิจโรงแรม มีรายได้อยู่ที่ 1,965 ล้านบาท เติบโต 26% จากปีก่อน เป็นผลมาจากอัตราการเข้าพัก และราคาห้องพักที่เพิ่มขึ้น

โดยเฉพาะโรงแรมฮิลตัน พัทยา ที่สามารถสร้างทั้งรายได้รวม รายได้เฉลี่ยต่อห้องพักทั้งหมด และราคาห้องพัก สูงสุดเป็นประวัติการณ์

4. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย มีรายได้อยู่ที่ 6,231 ล้านบาท เติบโต 7% จากปีก่อน แสดงให้เห็นถึงจุดแข็งเฉพาะตัวของโครงการคอนโดมิเนียมของบริษัท ที่อยู่ติดศูนย์การค้า จากกลยุทธ์การพัฒนาโครงการแบบ Retail-led Mixed-use

ซึ่งกลยุทธ์แบบ Retail-led Mixed-use ของ CPN จะมีศูนย์การค้าเป็นหัวใจสำคัญในการเชื่อมโยงกับธุรกิจอื่น ๆ เช่น ที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน และโรงแรม เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจ Retail และ Non-retail ไปพร้อม ๆ กัน

ส่วนที่เหลือเป็นรายได้อื่น ๆ อยู่ที่ 1,477 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 26% หลัก ๆ มาจากผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการดำเนินงานในต่างประเทศ และการลงทุนอื่นของบริษัท

ขณะที่กำไรขั้นต้นในปี 2567 ของบริษัทอยู่ที่ 27,443 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 14% ทำให้ทั้งปี 2567 บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 55%

โดยทุกกลุ่มธุรกิจมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นหรือใกล้เคียงจากปีก่อน ตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น การบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และอัตราค่าไฟที่ต่ำกว่าปีก่อน

ทำให้กำไรสุทธิในปี 2567 ของ CPN อยู่ที่ 16,729 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 11% คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 32.3%

นอกจากนี้บริษัทยังประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2567 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ 2.10 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนการจ่ายปันผล 56% ของกำไรสุทธิ

สำหรับแผนการเติบโตในอนาคต ทาง CPN กำลังวางแผนเปิดตัวโครงการมิกซ์ยูสระดับโลก “Central Park” ในส่วนของศูนย์การค้า และอาคารสำนักงาน ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 นี้

และโครงการ “เซ็นทรัล กระบี่” เพื่อเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 เช่นกัน

หมายเหตุ : ตัวเลขเงินปันผลที่ 2.10 บาทต่อหุ้น ยังเป็นเพียงตัวเลขที่อยู่ระหว่างรอนำเสนอ และรออนุมัติจากผู้ถือหุ้น

คำเตือน : โพสต์นี้เป็นเพียงการนำเสนอข้อมูล ไม่ได้มีเจตนาให้ซื้อหรือขายหุ้นตัวดังกล่าวแต่อย่างใด

References
- คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2567 ของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
- ข่าวประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)