เป็นเวลาเกือบ 110 ปีมาแล้วที่ Maserati ได้ส่งมอบผลงานอันแสนประณีต ในแบบฉบับงานศิลป์ของอิตาลี ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพอันน่าทึ่ง ให้ผู้คนได้สัมผัส ผ่านรถยนต์รุ่นแล้วรุ่นเล่า 

และในปัจจุบันนี้ที่รถยนต์ไฟฟ้า เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น ทั้งจากประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม และความคุ้มค่าที่มากกว่ารถน้ำมัน ทำให้ทาง Maserati จึงต้องเริ่มขยับตัว เพื่อให้ทันกับเทรนด์ใหม่ที่กำลังมา 

จนในปีนี้เอง ทาง Maserati ก็ได้เปิดตัว 2 รุ่นรถไฟฟ้าใหม่จาก อย่าง Maserati GranTurismo Folgore และ Maserati Grecale Folgore ที่เราจะพูดถึงในวันนี้นั่นเอง

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า รถยนต์ทุกคันของ Maserati นั้น เป็นดั่งงานศิลป์แสนประณีตในแบบฉบับของชาวอิตาลี นั่นจึงทำให้ ดีไซน์ทั้งภายนอก และภายในของ Grecale Folgore ก็ยังคงสวยงามไม่มีเปลี่ยน 

ไล่ตั้งแต่ดีไซน์ภายนอก ที่ออกแบบมาให้ทั้งสวยงาม และเหมาะสมกับหลักแอโรไดนามิกส์ที่สุด นอกจากนี้ยังได้เปลี่ยนช่องระบายความร้อน ให้กลายเป็นไฟตกแต่ง เพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวรถ เมื่อขับไปตามท้องถนนในยามค่ำคืนด้วย 

ส่วนภายในนั้น ตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมบุด้วยวัสดุทำจากไนลอนที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ เพื่อล้อไปกับคอนเซ็ปต์ความยั่งยืนแห่งโลกอนาคต ของตัวรถไฟฟ้า 

อีกทั้งด้วยความที่ Maserati Grecale นั้น เป็นโมเดลซึ่งผสานระหว่างรถสปอร์ต และรถ SUV เข้าด้วยกัน จึงทำให้ข้างในมีพื้นที่กว้างขวาง สำหรับใช้เก็บของ หรือให้คนในครอบครัวนั่งได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย 

ไม่เพียงแค่นั้น Grecale Folgore ยังมีฟีเจอร์ภายในอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาดิจิทัล ที่สามารถปรับเป็นเข็มทิศได้ รวมไปถึงแดชบอร์ดแบบทัชสกรีน ที่เราสามารถดูสถานะต่าง ๆ ของรถ และแบตเตอรี่ รวมถึงเชื่อมต่อกับมือถือ เพื่อดูแผนที่ หรือฟังเพลงเพื่อเพิ่มอรรถรสในการขับ ผ่านลำโพง Sonus Faber จากอิตาลี 

Grecale Folgore ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ที่ให้กำลังมากถึง 550 แรงม้า ซึ่งสามารถเร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ภายใน 4.1 วินาที และมี Top Speed อยู่ที่ 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 

แถมยังมีโหมดขับขี่ให้เลือกถึง 4 โหมด เพื่อให้พร้อมรับกับทุกการใช้งาน ได้แก่
- GT สำหรับขับขี่สบาย ๆ ในชีวิตประจำวัน

- Sport ที่ให้เราสัมผัสความเร้าใจ จากการใช้เครื่องยนต์เต็มประสิทธิภาพ 

- Corsa ที่ผสานความเร้าใจ ให้เข้ากับช่วงล่างที่เฟิร์มขึ้น เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

- Max Range โหมดประหยัดพลังงาน ให้ขับขี่ได้นานยิ่งขึ้น 

ส่วนในเรื่องของแบตเตอรี่นั้น ก็ใหญ่จุใจ เพราะชาร์จเต็ม 1 ครั้ง Grecale Folgore ก็สามารถวิ่งได้ไกลถึง 500 กิโลเมตร แถมยังใช้เวลาชาร์จจากแบตเตอรี่ 0%-80% เพียงแค่ 29 นาที จากไฟฟ้ากระแสตรง ตามจุดชาร์จ และ 4 ชั่วโมง จากไฟฟ้ากระแสสลับจากในบ้าน

ด้วยฟังก์ชันที่น่าสนใจแบบนี้ Grecale Folgore มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 7.89 ล้านบาท ซึ่งถึงแม้ว่าราคาจะดูแพง แต่เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้ และความปลอดภัยต่าง ๆ ที่ทาง Maserati ได้มอบให้ 

รวมถึงการที่เราสามารถพาทุกคนในครอบครัว หรือคนที่เรารัก มาสัมผัสประสบการณ์สุดหรูหราฉบับไฟฟ้าจาก Maserati นี้ Grecale Folgore ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลย

โดย Grecale Folgore นั้น จะเริ่มเข้ามาขายในไทย ตั้งแต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป ถึงอย่างนั้น ถ้าหากใครที่สนใจ อยากจะทดลองสัมผัสความหรูหราของ Maserati จากรถรุ่นอื่น ๆ บ้าง หรือกำลังตัดสินใจที่จะซื้อรถหรูคันแรกเป็นของตัวเอง 

ก็สามารถเข้ามาติดต่อขอ Test Drive ได้ที่โชว์รูมของ Maserati ประเทศไทย ได้ทั้ง 3 สาขาได้แก่ 

1) โครงการ A Square ซอยสุขุมวิท 26

2) ศูนย์การค้าสยามพารากอน 

3) ศูนย์การค้าไอคอนสยาม