บริษัท “ปลูกผักเพราะรักแม่” เจ้าของ โอ้กะจู๋ เตรียมเข้าตลาดหุ้น

บริษัท “ปลูกผักเพราะรักแม่” เจ้าของ โอ้กะจู๋ เตรียมเข้าตลาดหุ้น

2 เม.ย. 2024
วันนี้ ทางบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารเจ้าดัง “โอ้กะจู๋” ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเตรียม IPO เข้าตลาดหุ้น แล้ว
โดยการ IPO ดังกล่าว บริษัทจะเสนอขายหุ้นเป็นจำนวนไม่เกิน 159 ล้านหุ้น แต่รายการดังกล่าว ไม่ได้ระบุว่าบริษัทจะเข้าตลาดหุ้นในช่วงเวลาไหน
สำหรับ บมจ.ปลูกผักเพราะรักแม่ มีอยู่ 3 ธุรกิจหลัก คือ
ธุรกิจบริการและจำหน่ายอาหาร ภายใต้แบรนด์ “โอ้กะจู๋”
โดยปัจจุบันนี้ ทางโอ้กะจู๋ มีช่องทางการขายสินค้าที่เป็นแบรนด์โอ้กะจู๋ อยู่ 4 ช่องทางได้แก่
ร้านอาหารโอ้กะจู๋ จำนวน 30 สาขา ใน 4 จังหวัด โดยมีการขายทั้งแบบรับประทานในร้าน และ Drive Thruร้านแบบ Delivery and Kiosk จำนวน 4 สาขา ในกรุงเทพฯวางจำหน่ายอาหารว่าง และอาหารเพื่อสุขภาพ ผ่านทางร้าน Cafe Amazon กว่า 300 สาขา ทั่วประเทศวางจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร ผ่านทางร้าน Rimping Supermarket และ Gourmet Market จำนวน 9 สาขา
ธุรกิจร้านอาหารประเภทจานด่วน ภายใต้แบรนด์ “Ohkajhu Wrap & Roll”
โดยเน้นจำหน่ายสลัด แซนวิช เบอร์เกอร์ พร้อมทั้งมีเมนูสุขภาพพร้อมหยิบ
ธุรกิจร้านน้ำผักผลไม้เพื่อสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ “Oh Juice”
จำหน่ายเมนูเมนูสุขภาพ เช่น น้ำผักออร์แกนิกและผลไม้ที่ขายในร้านโอ้กะจู๋ มาพัฒนาสูตรเป็นเมนูสุขภาพ ให้เข้ากับคนทุกวัย
ซึ่งการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อทางโอ้กะจู๋ ที่จะมีช่องทางในการระดมทุนเพิ่มเติมแล้ว
OR ก็น่าจะได้ประโยชน์จากการปลดล็อกมูลค่าเงินลงทุนที่ไปลงทุนในร้านโอ้กะจู๋อีกด้วย
แล้วผลประกอบการของบริษัทเป็นอย่างไร ?
ปี 2563 รายได้ 837 ล้านบาท กำไร 33 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 803 ล้านบาท ขาดทุน 83 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 1,215 ล้านบาท กำไร 38 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 1,716 ล้านบาท กำไร 140 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เข้ามาถือหุ้นในร้าน โอ้กะจู๋ คิดเป็นสัดส่วน 20% ของมูลค่าหุ้นทั้งหมด ในปี 2564 ด้วยมูลค่าไม่เกิน 500 ล้านบาท
นั่นหมายความว่า มูลค่าบริษัทของโอ้กะจู๋ในตอนนั้น คืออยู่ราว 2,500 ล้านบาท
แต่จากกำไรในปี 2566 ที่บริษัททำได้ 140 ล้านบาท แต่ถ้าเราลองนำกำไรมาคูณกับอัตราส่วน P/E ระหว่าง 10 - 20 เท่า
บมจ.ปลูกผักเพราะรักแม่ จะมีมูลค่าที่แท้จริง ได้สูงถึง 2,800 ล้านบาท
หากคิดจากมูลค่า 2,500 ล้านบาทนั้น หมายความว่า บริษัทมี P/E เพียงแค่ 18 เท่าเท่านั้น..
References
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
© 2024 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.