MG x MONEY LAB

100 ปีก่อน แบรนด์ MG ถือกำเนิดขึ้นในสหราชอาณาจักร ในปี 2467
แบรนด์ MG ที่ย่อมาจาก Morris Garages ก็กลายเป็นแบรนด์รถยนต์อังกฤษ ที่ใช้เทคโนโลยี ด้านวิศวกรรม รวมถึงการออกแบบระบบขับขี่ตามแบบฉบับยุโรปเรื่อยมา

และเมื่อแบรนด์ MG เข้ามาอยู่ภายใต้ร่มเงาของ SAIC Motor Corporation ผู้ผลิตยานยนต์สัญชาติจีน
ก็ได้สร้างการเติบโต และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อให้แบรนด์ตอบสนองความต้องการทุกกลุ่มลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง

สังเกตได้จากปีที่ผ่านมา แม้จะเจอความท้าทายจากอุตสาหกรรมยานยนต์โลกชะลอตัวจากปัจจัยต่าง ๆ
แต่ SAIC Motor Corporation ยังคงมียอดขายรถยนต์รวมกว่า 5.02 ล้านคัน
โดยรักษาตำแหน่งอันดับ 1 ของกลุ่มบริษัทรถยนต์ในประเทศจีนต่อเนื่อง เป็นปีที่ 18

ขณะเดียวกัน แบรนด์ MG ในประเทศไทย ที่เกิดจากความร่วมมือของ SAIC Motor Corporation และเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ที่จัดตั้งมาตั้งแต่ปี 2556 ในปี 2566 ที่ผ่านมา ก็สามารถกวาดยอดขายได้ถึง 27,311 คัน ทำให้ ยอดขายสะสมของ MG ในประเทศไทย สูงแตะหลัก 200,000 คัน

ที่สำคัญกว่านั้น MG ที่เปิดตลาดในไทยมาแล้วถึงสิบปี และยังตั้งเป้าหมายท้าทาย ด้วยการจะขึ้นไปยืนเป็น Top 3 ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย อีกด้วย

แล้วเรื่องนี้ ยังมีอะไรที่น่าจับตามองอีกบ้าง ?
MONEY LAB จะพาไปดูรายละเอียด​กัน

ถ้าพูดถึง SAIC Motor Corporation นอกจากจะเป็นหนึ่งในผู้ผลิตยานยนต์สัญชาติจีนที่ยิ่งใหญ่แล้ว ยังขึ้นแท่นเป็นแบรนด์ส่งออกรถยนต์เป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศจีน สังเกตได้จาก

- 5,020,000 คัน
คือ ยอดขายรถยนต์ทั้งหมดของ SAIC Motor Corporation ในปี 2566
ซึ่งถือว่าเป็นอันดับ 1 ในจีนต่อเนื่อง เป็นปีที่ 18

- 1,208,000 คัน
คือ ยอดการส่งออกรถยนต์ไปทั่วโลกของ SAIC Motor Corporation ในปี 2566

มากไปกว่านั้น สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือ MG ZS เป็นรถยนต์ที่ขายในตลาดโลกแล้วกว่า 1.06 ล้านคัน ถือว่ามียอดส่งออกจากจีนสูงเป็นอันดับ 1 ในหมวดรถยนต์นั่ง ในปี 2566 ที่ผ่านมา

แล้วถ้าถามว่า แบรนด์ MG สร้างความสำเร็จนี้ได้อย่างไร ?

สิ่งที่แบรนด์ MG ทำมาตลอดคือ การวางกลยุทธ์นำเข้าผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังคนรุ่นใหม่ ด้วยการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ บนนวัตกรรมยานยนต์ ดิไซน์ และความคุ้มค่า ควบคู่ไปกับการบริการที่ถูกยกระดับในทุกมิติ

ที่สำคัญคือ การยกระดับ MG EV ECOSYSTEM ให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์คนใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าให้มากที่สุด

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพอย่างชัดเจนก็เช่น การทำการตลาดของแบรนด์ MG ในประเทศไทย

ด้วยการเป็นผู้นำในหลายเรื่อง ทั้งรถยนต์ขนาดเล็กที่มี Sunroof กล้าที่จะบุกเบิกตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้มีราคาจับต้องได้ เข้าสู่ตลาดยานยนต์ไทย

และแน่นอนว่า “รถยนต์ไฟฟ้า” ย่อมต้องการ “สถานีชาร์จไฟ”

แบรนด์ MG จึงไม่ลืมที่จะผลักดันการพัฒนา EV ECOSYSTEM ให้สมบูรณ์
เพื่อรองรับการขยายตัวของสังคมรถ EV และเป็นแบรนด์แรกที่วางหมุดกระจายสถานีชาร์จเร็วอย่าง MG SUPER CHARGE ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ซึ่งในปัจจุบันมีสถานีที่พร้อมใช้งานมากถึง 146 สถานี เรียบร้อยแล้ว

ถึงตรงนี้ ต้องบอกว่าในปี 2566 ที่ผ่านมา เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) สร้างยอดขายสูงถึง 27,311 คัน โดย Top 3 ที่มียอดขายสูงสุดคือ MG4 ELECTRIC จำนวน 5,615 คัน, MG EP จำนวน 4,717 คัน และ MG ZS จำนวน 2,534 คัน

จากนี้ไป MG ในประเทศไทย ตั้งใจจะก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 2 ด้วยความท้าทายที่ยิ่งใหญ่สู่ Top 3 ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ซึ่งก็มีหลายสิ่งที่น่าจับตามอง ไม่ว่าจะเป็น

- การผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง เพื่อการส่งออกไปยังเวียดนาม, อินโดนีเซีย ฯลฯ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

- การแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่หลากหลายขุมพลังทางเลือก คุณภาพเทียบเท่าระดับสากล ทั้ง New Energy, Intelligent และ Internationalization

- การสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวสู่ Net Zero ผ่านนโยบาย EV 3.5 ที่นำทัพโดย NEW MG4 ELECTRIC รุ่นผลิตในไทย รวมถึงรถสปอร์ตโรดสเตอร์พลังงานไฟฟ้าอย่าง MG CYBERSTER

- โชว์รูมมิติใหม่ สร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ด้วย MG EV Showroom ที่โชว์นวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมอย่าง MG MAXUS 9 รวมถึง การยกระดับบริการหลังการขาย โดยพัฒนาบุคลากรให้มีความเข้าใจในเรื่องยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า MG

ทิ้งท้ายด้วยเรื่องที่น่าสนใจ..

นอกจาก การวางแผนเพิ่มศักยภาพรถยนต์ในทุกเซกเมนต์ ด้วยนวัตกรรม และเทคโนโลยีแล้ว แบรนด์ MG ได้ขยาย NEW ENERGY INDUSTRIAL PARK เพื่อผลิตแบตเตอรี่ EV แห่งแรกในอาเซียน และพร้อมผลิตรถ EV ในประเทศไทย เพื่อส่งออกไปยังอาเซียนในทศวรรษต่อไป..

โอกาสพิเศษที่แบรนด์ MG ก้าวสู่การเป็นแบรนด์ระดับตำนาน MG เตรียมแผนนำ MG Cyberster สปอร์ตโรดสเตอร์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่สืบทอดรูปทรงสุดคลาสสิกและจิตวิญญาณของ MGB ไว้แบบเต็มขั้นเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย โดยเปิดให้คนไทยได้จองสิทธิ์เป็นเจ้าของก่อนใคร และประกาศแผนที่จะเปิดตัวภายในปี 2567 จะเป็นเมื่อไรต้องคอยติดตาม

Reference
- เอกสารประชาสัมพันธ์ MG