PTG เจ้าของปั๊มน้ำมัน PT และ ร้านกาแฟพันธุ์ไทย
รายได้ 100 บาท กำไรบาทเดียว

แม้ว่าในกรุงเทพฯ เราอาจจะไม่ค่อยได้เห็นปั๊มน้ำมัน PT
แต่ถ้าเราขับรถออกต่างจังหวัด เราน่าจะได้เห็นปั๊มน้ำมัน PT กระจายอยู่ตามเส้นทาง

ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะ PTG นั้นเลือกใช้กลยุทธ์ป่าล้อมเมือง ด้วยการสร้างเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันในต่างจังหวัด และพัฒนาจนแข็งแกร่ง ก่อนจะเข้ามาขยายสาขาในเขตเมือง

ทำให้ปัจจุบัน PT มีจำนวนปั๊มน้ำมันมากที่สุดเป็นอันดับ 2
และตลอดทั้งปี 2565 ก็มีรายได้มากกว่า 179,000 ล้านบาท

แต่ถ้าเรามาแกะงบการเงินของ PTG ก็จะพบว่า ธุรกิจน้ำมันของบริษัท มีอัตรากำไรขั้นต้นแค่เพียง 2.5% เท่านั้น

โดยสาเหตุที่ทำให้ธุรกิจน้ำมันมีอัตรากำไรที่บางเฉียบ ก็เพราะว่า น้ำมันก็เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งน้ำมันแต่ละยี่ห้อจะมีลักษณะค่อนข้างคล้ายกัน ทำให้ราคาขายต้องเป็นไปตามราคาตลาด ไม่สามารถขึ้นราคาน้ำมันตามใจชอบได้

นอกจากอัตรากำไรที่บางแล้ว ธุรกิจน้ำมันก็กำลังเจอกับความท้าทาย จากแนวโน้มของการใช้รถ EV ที่เพิ่มขึ้น

ด้วยเหตุนี้ จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไม PTG ถึงหันไปขยาย ธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน อย่างเช่น ร้านสะดวกซื้อ Max Mart และศูนย์ซ่อมบำรุงรถยนต์ Autobacs รวมถึงร้านกาแฟพันธ์ุไทย เพื่อเพิ่มช่องทางรายได้และกระจายความเสี่ยง

เช่นเดียวกับเจ้าของธุรกิจน้ำมันรายอื่น ๆ ก็ขยายธุรกิจไปยังธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน ด้วยเหตุผลเดียวกัน เช่น

-OR ที่ทำร้านกาแฟ Café Amazon

-BCP ที่ทำร้านกาแฟอินทนิล

โดยรายได้ที่ PTG ทำได้นั้น ทุก ๆ 100 บาท มาจาก

-ธุรกิจน้ำมัน 94.5 บาท

-ธุรกิจก๊าซ LPG 3.0 บาท

-ธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทย 0.5 บาท

-รายได้อื่น ๆ 2.0 บาท

ส่วนต้นทุนหลักของบริษัท ก็คือ ต้นทุนน้ำมัน ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 92 บาท

เมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน, ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ รวม 7 บาท

ก็ทำให้รายได้ทุก ๆ 100 บาท ของ PTG จะเหลือเป็นกำไรเพียงแค่ 1 บาท เท่านั้น..