ลอกเซียนหุ้นอย่างไร ให้เราเก่งขึ้นได้ แบบนักลงทุนดันโด

ลอกเซียนหุ้นอย่างไร ให้เราเก่งขึ้นได้ แบบนักลงทุนดันโด

10 ธ.ค. 2024
“ผมเป็นนักก๊อบไร้ยางอาย ทุกสิ่งในชีวิตของผมคือการเลียนแบบ ผมไม่มีไอเดียอะไรเป็นของตัวเอง” 
คือคำที่คุณ Mohnish Pabrai นักลงทุนชาวอินเดีย ที่หลายคนรู้จักกันในนาม “นักลงทุนดันโด” ได้กล่าวไว้ 
นั่นก็เป็นเพราะว่าที่ผ่านมานั้น เขายอมรับมาโดยตลอดว่า หลักการลงทุนของเขานั้น มาจากการก๊อบปี้นักลงทุนในตำนานอย่างคุณ Warren Buffett และคู่หูอย่างคุณ Charlie Munger
แน่นอนว่าคุณ Pabrai ก็ไม่ได้ก๊อบปี้หลักการลงทุนของ 2 นักลงทุนในตำนานมาทั้งดุ้น เพราะสุดท้ายเขาก็ตกผลึกจนสร้างหลักการลงทุนแบบดันโด ของตัวเองขึ้นมาได้ 
แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ คุณ Pabrai มีกระบวนการลอกเลียนแบบเซียนหุ้นอย่างไร ถึงทำให้สุดท้ายตัวเองก็กลายเป็นนักลงทุนที่เก่งได้เหมือนกัน
แล้วถ้าหากสงสัย ต้องลอกเซียนหุ้นอย่างไร ถึงจะกลายเป็นนักลงทุนที่เก่งขึ้นแบบนี้ ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
ย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ณ สนามบินฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน วิศวกรคอมพิวเตอร์หนุ่มจากเมืองมุมไบคนนี้ กำลังอ่านนิตยสารฆ่าเวลาเพื่อรอขึ้นเครื่อง 
แต่จากการหาอะไรอ่านเล่นฆ่าเวลา กลับเป็นสิ่งที่จะเปลี่ยนชีวิตของคุณ Pabrai ไปตลอดกาล เพราะเขาได้เห็นเรื่องราวความสำเร็จของคุณ Warren Buffett ที่สามารถทำผลตอบแทนได้ 31% เป็นเวลาติดต่อกันได้นานถึง 44 ปี 
ซึ่งผลตอบแทนขนาดนี้ ถ้าหากคิดง่าย ๆ ก็คือ คุณ Buffett สามารถทำให้เงินของคนที่มาลงทุนกับเขาตั้งแต่ปี 1950 เติบโตขึ้น 144,523 เท่า เมื่อถึงปี 1994 
เรื่องนี้ทำให้คุณ Pabrai นึกย้อนไปถึงตำนานของผู้คิดค้นหมากรุกของอินเดีย ซึ่งเขาเคยได้ยินตอนเด็ก ๆ ที่สอนให้เขาได้เข้าใจแนวคิดของดอกเบี้ยทบต้น 
โดยนักประดิษฐ์ได้ขอรางวัลจากพระราชา เป็นข้าวสารเพิ่มขึ้น 2 เท่า สำหรับแต่ละช่องในตารางหมากรุก ซึ่งพระราชาที่คิดไม่ทันก็ตอบตกลงไป 
และด้วยความที่ตารางหมากรุกมี 64 ช่อง นั่นจึงทำให้พระราชา ต้องให้รางวัลกับนักประดิษฐ์หมากรุกคนนี้ เป็นข้าวสารจำนวน 2⁶⁴ เมล็ด ซึ่งถ้าเขียนออกมาเป็นตัวเลข ก็บอกได้คำเดียวว่านับไม่ถ้วน
คุณ Pabrai จึงคิดต่อไปอีกว่า ถ้าหากคุณ Buffett ยังคงทำแบบนี้ต่อไปได้เรื่อย ๆ ในไม่ช้าเขาก็น่าจะกลายเป็นคนที่รวยที่สุดในโลกอย่างแน่นอน 
ซึ่งสิ่งที่เขาคิดไว้ก็เป็นจริงในอนาคต เพราะเมื่อปี 2008 คุณ Warren Buffett ก็กลายเป็นคนที่รวยที่สุดในโลกได้จริง ๆ ด้วยความมั่งคั่ง 62,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3 ล้านล้านบาท ในปัจจุบัน) 
เห็นแบบนี้แล้ว คุณ Pabrai ก็คิดได้ทันทีว่า นี่แหละคือบุคคลแบบอย่างที่เขาควรศึกษา และเขาก็ตั้งเป้าหมายไว้ด้วยว่า จะเปลี่ยนเงินเก็บ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เขามีอยู่จากการขายกิจการส่วนหนึ่ง 
ให้กลายเป็นเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ใน 30 ปี ด้วยวิธีการแบบเดียวกันกับคุณ Buffett.. 
ตรงนี้เองที่คุณ Pabrai เริ่มกระบวนการลอกเลียนแบบเซียนหุ้นในตำนานอย่างบ้าคลั่ง ด้วยการอ่านทุกอย่างที่จะทำให้เขาได้เรียนรู้หลักการลงทุนของคุณ Buffett ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ 
นั่นก็รวมไปถึง จดหมายถึงผู้ถือหุ้นบริษัท Berkshire Hathaway ย้อนหลังหลายสิบปี ที่เขาก็ไปไล่อ่านจนหมดเช่นเดียวกัน และนั่นก็ทำให้เขาได้รู้จักสุดยอดนักลงทุนอีกคนอย่างคุณ Charlie Munger อีกด้วย 
แต่ไม่เพียงแค่การลงทุนเท่านั้น เพราะคุณ Pabrai ยังได้ศึกษาทั้ง วิธีการบริหารธุรกิจ วิธีการหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด ไปจนถึงวิธีการใช้ชีวิตของคุณ Buffett ด้วย 
จากเงินเริ่มต้นเพียง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 1995 อีก 4 ปีต่อมา เขาก็เปลี่ยนมันเป็นเงิน 5.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือก็คือทำผลตอบแทนได้ 43.4% ต่อปี ด้วยวิธีการลงทุนที่ลอกมาจากคุณ Buffett 
ในปี 1999 คุณ Pabrai ก็ได้ก่อตั้ง Pabrai Funds ขึ้น และใช้วิธีการบริหารกองทุนของตัวเอง แบบเดียวกันกับที่คุณ Buffett ต้นแบบการลงทุนของเขา บริหารบริษัทจัดการลงทุน Buffett Partnership   
ซึ่งกองทุนของเขาก็ทำผลตอบแทนได้ดีมาก โดยเฉพาะในช่วงปี 2000 ถึง 2018 ที่เขาทำผลตอบแทนได้มากถึง 1,204% ทิ้งห่างผลตอบแทนของตลาด S&P 500 ซึ่งอยู่ที่ 159% อย่างไม่เห็นฝุ่น
แก่นการลงทุนที่คุณ Pabrai ได้มา จากการลอกเลียนแบบแนวคิดของคุณ Buffett นั้น ก็มีอยู่ด้วยกัน 3 ข้อ ได้แก่
1. หัวใจสำคัญของการซื้อหุ้น คือการร่วมเป็นเจ้าของกิจการ ไม่ใช่การซื้อขายไปมาบนกระดาน 
2. ตลาดในระยะสั้นมักจะเป็นเครื่องลงคะแนนเสียง มากกว่าเครื่องวัดมูลค่ากิจการ นั่นจึงทำให้การอดทนรอโอกาสที่ราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่ากิจการ จึงเป็นเรื่องสำคัญ
3. มีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยในการซื้อหุ้นทุกครั้ง เพื่อป้องกันกรณีที่เราอาจจะประเมินมูลค่าผิดพลาด  
จะเห็นได้ว่าหลักการ 3 ข้อข้างต้น จะคล้ายกับหลักการของคุณ Benjamin Graham บิดาแห่งนักลงทุนเน้นคุณค่า ที่เป็นอาจารย์ของคุณ Buffett อีกที 
การที่คุณ Pabrai ลอกเลียนแบบคุณ Buffett ในระดับที่ถึงแก่นแบบนี้ เราก็อาจจะคิดว่าคุณ Pabrai คงไม่ต้องเสียเวลาหาหุ้นเอง เพียงแค่ซื้อหุ้นตามคุณ Buffett ก็คงจะพอแล้ว 
แต่อันที่จริงแล้ว หุ้นที่คุณ Pabrai ถืออยู่นั้น แทบจะไม่เหมือนกับหุ้นที่ต้นแบบนักลงทุนของเขาถือเลย นั่นก็เป็นเพราะว่า เขาได้ศึกษาวิธีการเลือกหุ้นของคุณ Buffett แบบถึงแก่นเช่นกัน นั่นก็คือ 
- มองหาหุ้นที่มีความสามารถในการแข่งขันระยะยาว ไม่ใช่มองหาแค่หุ้นราคาถูก
- หลีกเลี่ยงธุรกิจที่เข้าใจยากเกินไป (Too Hard) บริษัทที่เราสนใจ ควรมีโมเดลธุรกิจเข้าใจง่าย
- ลงทุนในอุตสาหกรรมที่เรารู้จักและเข้าใจ หรือก็คือที่คุณ Buffett เรียกว่าอยู่ใน Circle of Competence ของตัวเอง
ซึ่งการที่คุณ Pabrai มี Circle of Competence ที่ต่างกันกับคุณ Buffett นี้เอง ก็ทำให้เหล่าหุ้นที่เขาถืออยู่ในพอร์ต แทบจะไม่เหมือนกันกับคุณ Buffett เลยนั่นเอง 
จะเห็นได้ว่า การลอกเลียนแบบเซียนหุ้น หรือบุคคลต้นแบบในการลงทุนนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีเสมอไป 
เพราะคุณ Pabrai เองก็บอกอยู่เสมอว่า เขาไม่ได้มีไอเดียอะไรใหม่ ๆ เพียงแค่อาศัยการศึกษาจากต้นแบบที่ดี และนำมาต่อยอดเป็นของตัวเอง 
เหมือนที่สุดท้ายแล้วเขาก็สามารถตกผลึกแนวทางการลงทุนของตัวเองอย่าง “ดันโด” ได้ในท้ายที่สุด จากการศึกษาหลักการของนักลงทุนที่เก่งที่สุดในโลกอย่างคุณ Buffett
แต่ก็อย่างที่เราเห็นว่า การลอกเลียนแบบเซียนหุ้นให้ประสบความสำเร็จได้ ก็ไม่ได้ง่ายเหมือนที่ใครหลายคนคิด 
เพราะการลอกเลียนแบบที่ดี ไม่ใช่การเลียนแบบแค่ว่า นักลงทุนคนนั้น คัดกรองหุ้นด้วยอัตราส่วนอะไร และเข้าซื้อขายหุ้นตอนไหนบ้าง 
แต่เราต้องเรียนรู้ลงไปจนถึงแก่นความรู้ และวิธีคิดของนักลงทุนเหล่านั้น จนเราแทบจะสวมวิญญาณเซียนหุ้นคนนั้นได้เลย เวลาที่จะตัดสินใจลงทุนหุ้นสักตัวหนึ่ง 
นอกจากนี้คุณ Pabrai ยังบอกอีกด้วยว่า แม้การลอกเลียนแบบและเรียนรู้จากนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก จะเป็นสิ่งง่าย ๆ ที่ทุกคนเริ่มทำได้ 
แต่ก็น่าแปลกใจเหมือนกันที่หลายคนนั้นไม่ทำกัน เพราะวิธีนี้นั้นมันดูเรียบง่ายจนเกินไป และในบางครั้งยังมีเรื่องของอีโก้เข้ามาเกี่ยวข้อง จนทำให้หลายคนมองข้ามวิธีแบบนี้ไป 
ด้วยเหตุนี้เอง การจะลอกเลียนแบบและศึกษาแนวคิดของเซียนหุ้นที่ประสบความสำเร็จสักคน จึงไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่อย่างใด 
เพราะในเรื่องการลงทุน ไม่ได้มีบทลงโทษเป็นการหักคะแนน จากการลอกคนอื่น เหมือนตอนที่เราเรียนอยู่
แต่การลอกเลียนจากต้นแบบที่ผิดเพี้ยนต่างหาก ที่จะนำไปสู่การขาดทุนหนัก หรือทำผลตอบแทนไม่ได้ตามเป้า เป็นบทลงโทษ..
#ลงทุน
#หลักการลงทุน
#ดันโด
References 
© 2024 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.