EGCO Group จุดพลุ ! ติดตั้งกังหันลม Yunlin ไต้หวัน สำเร็จครบ 80 ต้น

EGCO Group จุดพลุ ! ติดตั้งกังหันลม Yunlin ไต้หวัน สำเร็จครบ 80 ต้น

15 พ.ย. 2024
EGCO Group x MONEY LAB
Yunlin เป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง (Offshore wind farm) ที่ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบไต้หวัน ห่างจากชายฝั่งทะเลทางตะวันตกของมณฑลหยุนหลิน ในไต้หวัน 8-30 กิโลเมตร และครอบคลุมพื้นที่รวม 90 ตารางกิโลเมตร โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 20 ปี กับ Taiwan Power Company (Taipower)
รู้หรือไม่ว่า ถ้าโครงการ Yunlin ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ คาดว่าจะสร้างกระแสเงินสดเฉลี่ย 2,000 ล้านบาทต่อปี ในช่วง 5 ปีแรกให้กับบริษัทไทยแห่งหนึ่ง
นั่นก็คือ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group
ความน่าสนใจของเรื่องนี้ เป็นอย่างไร ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
จริง ๆ แล้ว EGCO Group ผู้ดำเนินธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานที่เกี่ยวเนื่องทั้งในประเทศไทยและเอเชียแปซิฟิก มากว่า 32 ปี ได้ถือหุ้น 26.56% ของโครงการ Yunlin ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งในไต้หวัน จำนวน 80 ต้น ต้นละ 8 เมกะวัตต์ กำลังผลิตสุทธิรวม 640 เมกะวัตต์
โดยความคืบหน้าของการก่อสร้างโครงการล่าสุด ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2567 พบว่า
- ติดตั้งเสากังหันลม หรือ Monopiles ครบ 80 ต้น มาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 แล้ว
- ติดตั้งกังหันลม หรือ Wind Turbine Generators (WTGs) ครบ 80 ต้น
- วางสายเคเบิล เพื่อจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้ว 78 เส้น จากทั้งหมด 81 เส้น
- กังหันลมจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้ว 67 ต้น
เมื่อโครงการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ 100% ในปี 2567 จะสามารถจ่ายไฟฟ้าให้กับครัวเรือนไต้หวันได้มากกว่า 600,000 หลังคาเรือน
โดยปัจจุบันกังหันลมที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว ได้จ่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเข้าสู่ระบบโครงข่ายไฟฟ้าไต้หวันแล้วมากกว่า 1,600 กิกะวัตต์ชั่วโมง
ที่น่าสนใจคือ กังหันลมส่วนที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว มีอัตราการผลิตไฟฟ้า หรือ Capacity Factors ดีกว่าเป้าหมาย
สะท้อนถึงศักยภาพในการสร้างรายได้ในอนาคตของ Yunlin ได้เป็นอย่างดี
โดยจากสถิติพบว่า Capacity Factors เฉลี่ยทั้งปีของ Yunlin อยู่ที่ 40% และในเดือนที่เป็นฤดูมรสุม สามารถขึ้นไปได้ถึง 80%
แล้วโครงการ Yunlin จะสร้างการเติบโตให้กับ EGCO Group แค่ไหน ?
อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่า ถ้าโครงการ Yunlin ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์
คาดว่าจะสร้างกระแสเงินสดให้ EGCO Group เฉลี่ย 2,000 ล้านบาทต่อปี ในช่วง 5 ปีแรก
มากไปกว่านั้น โครงการ Yunlin ยังเพิ่มกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนตามสัดส่วนการถือหุ้นให้ EGCO Group จำนวน 170 เมกะวัตต์
ซึ่งก็สอดคล้องกับเป้าหมายระยะสั้นของ EGCO Group ที่ต้องการจะเพิ่มสัดส่วนกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 30% ภายในปี 2573
นอกเหนือจาก “ผลตอบแทนทางการเงิน” แล้ว EGCO Group ยังได้รับประโยชน์ด้านอื่น ๆ จากโครงการ Yunlin ควบคู่กัน

ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็เช่น
- เปิดโอกาสการลงทุนในไต้หวัน ซึ่งเป็นฐานธุรกิจอีกแห่งของ EGCO Group ที่มีศักยภาพในการลงทุนด้านพลังงานสะอาดและพลังงานทดแทน
- โอกาสที่รัฐบาลไต้หวันจะได้รู้จัก EGCO Group ในฐานะนักลงทุนไทยที่มีศักยภาพและมีความมุ่งมั่นในการดำเนินโครงการให้สำเร็จ
- มีโอกาสได้ทำงานและเป็นพันธมิตรกับบริษัทระดับโลก เช่น TotalEnergies บริษัทด้านพลังงานระดับนานาชาติที่ดำเนินงานในกว่า 130 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นโอกาสต่อยอดธุรกิจต่อไปในอนาคต
พูดง่าย ๆ คือ EGCO Group ตัดสินใจลงทุนในโครงการ Yunlin ครั้งนี้ ได้รับประโยชน์รอบด้านเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ EGCO Group ไม่เคยลืมเลยก็คือ การดูแลสิ่งแวดล้อม
แล้ว EGCO Group ดูแลเรื่องนี้ในโครงการ Yunlin อย่างไร ?
ตลอดเวลาที่ผ่านมา EGCO Group ดำเนินธุรกิจตามกรอบ ESG ซึ่งเป็นการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงการดูแลสิ่งแวดล้อม การพัฒนาชุมชนและสังคม และการกำกับกิจการที่ดี
เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
โดยโครงการ Yunlin เอง ก็อยู่ภายใต้กรอบ ESG ของ EGCO Group เช่นกัน
Yunlin วางมาตรการดูแลสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ขั้นตอนการตอก Monopiles
เป้าหมายก็คือ การดูแลและปกป้องสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล โดยเฉพาะโลมาสีชมพู หรือ Chinese White Dolphin ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้าง
ด้วยการป้องกันไม่ให้สัตว์ทะเลที่เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น วาฬ, โลมา ที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศ เข้ามาในบริเวณที่มีการก่อสร้าง พร้อมลดผลกระทบ และตรวจสอบระดับเสียงใต้น้ำให้เป็นไปตามมาตรฐาน
ยกตัวอย่างเช่น
- การดำเนินงานป้องกันไม่ให้สัตว์ทะเลเข้ามาในพื้นที่ก่อสร้าง
วิธีการก็คือ ทุกครั้งก่อนการก่อสร้างจริง 30 นาที จะมีการส่งเรือ 4 ลำ ไปใน 4 ทิศทาง ภายในรัศมี 750 เมตร รอบบริเวณที่มีการก่อสร้าง Monopiles หรือเรียกว่า Exclusive Zone เพื่อสำรวจพื้นที่ล่วงหน้า และป้องกันไม่ให้สัตว์ทะเลเข้ามาในพื้นที่ที่กำลังจะมีการก่อสร้าง
และระหว่างที่มีการตอก Monopiles จะมีการส่งเรืออีก 2 ลำ
เพื่อสำรวจและป้องกันสัตว์ทะเล ในพื้นที่เฝ้าระวังเป็นชั้นที่ 2 หรือเรียกว่า Precautionary Area ในระยะ 750-1,500 เมตร จากรัศมีการตอก Monopiles
ถ้าพบว่ามีสัตว์ทะเลเข้ามาในพื้นที่นี้ระหว่างการตอก Monopiles
ทางโครงการจะหยุดการก่อสร้างชั่วคราว และจะกลับมาทำงาน ก็ต่อเมื่อสัตว์ทะเลไม่ได้อยู่ในพื้นที่แล้ว
- การดำเนินงานลดผลกระทบ และตรวจสอบระดับเสียงใต้น้ำ ให้เป็นไปตามมาตรฐาน
วิธีการก็คือ การกำหนดมาตรฐานระดับเสียงใต้น้ำในพื้นที่ Exclusive Zone ไม่เกิน 160 เดซิเบล เพราะเป็นระดับที่ปลอดภัยต่อสัตว์ทะเล
ซึ่งระหว่างการก่อสร้าง ก็จะสร้างม่านฟองอากาศใต้น้ำขึ้น 2 ชั้น ในระยะ 750-1,500 เมตร ล้อมรอบจุดที่มีการตอก Monopiles เพื่อลดผลกระทบทางเสียงลง 90% และช่วยปกป้องสัตว์ทะเลที่ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ในการสื่อสาร
ถึงตรงนี้ คงเห็นแล้วว่า โครงการ Yunlin กำลังสร้างการเติบโตทางการเงิน ไปพร้อม ๆ กับการขยายโอกาสทางธุรกิจให้กับ EGCO Group ขณะเดียวกัน ยังเป็นโครงการพลังงานหมุนเวียนที่รักษ์โลกตั้งแต่การก่อสร้างอีกด้วย
#EGCO #EGCOGroup #พลังงานหมุนเวียน #Yunlin #ไต้หวัน
Reference
- ข้อมูลเปิดเผยจาก EGCO Group
© 2024 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.