ธีรพรคลินิก คลินิกศัลยกรรม ที่เพิ่งเข้าตลาดหุ้น รายได้ 100 บาท มีกำไร 32 บาท
หลังจากดำเนินการมากว่า 40 ปี ในวันนี้ ธีรพรคลินิก ก็ถึงเวลาเข้าตลาดหุ้น โดยถือเป็นหุ้นในอุตสาหกรรมเสริมความงาม ตัวที่ 3 ที่เข้าตลาดหุ้น

ถ้าหากเราดูโครงสร้างรายได้ของ บริษัท เอสเตติก คอนเนค จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นเจ้าของธีรพรคลินิก จะพบว่า
รายได้ส่วนใหญ่ มาจากการทำศัลยกรรมที่เกี่ยวกับใบหน้า ได้แก่

-ศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า 64%

-ศัลยกรรมผ่าตัดตา 21%

-ศัลยกรรมผ่าตัดจมูก 5%

ซึ่งรวมกันแล้วคิดเป็นถึง 90% ของรายได้ทั้งหมด สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่าง ธีรพรคลินิก และหุ้นเสริมความงามอื่น ๆ

เพราะในขณะที่หุ้นเสริมความงามอื่น ๆ มักจะมีการศัลยกรรมให้เลือกทำ แทบจะครบทุกส่วนในร่างกาย แต่ธีรพรคลินิก ยังคงเลือกโฟกัสแค่การทำศัลยกรรมเกี่ยวกับใบหน้า ที่ตัวเองถนัดเพียงอย่างเดียว

นั่นจึงทำให้ค่าใช้จ่ายของธีรพรคลินิก หลัก ๆ แล้วจะเป็นต้นทุนค่าแพทย์ ซึ่งจ่ายให้กับเหล่าอาจารย์แพทย์ ที่เข้ามาทำงานแบบพาร์ตไทม์ในคลินิก

ในขณะที่ต้นทุนยา เวชภัณฑ์ และวัสดุอื่น ๆ ก็ถือว่าน้อยมาก ๆ เพราะการศัลยกรรมใบหน้าอย่าง การผ่าตัดดึงหน้า และผ่าตัดตา ไม่ได้มีการใส่วัสดุเข้าไป จึงไม่จำเป็นต้องเสียเงินเพื่อนำเข้า วัสดุราคาแพง ๆ จากต่างประเทศ

และด้วยเหตุผลนี้เอง ธีรพรคลินิก จึงสามารถทำกำไรเข้ากระเป๋าได้สูงถึง 32 บาท จากรายได้ทุก 100 บาท เลยทีเดียว..

แตกรายได้ ต้นทุน Inditex เจ้าของแบรนด์ ZARA ขายเสื้อได้ 100 บาท มีกำไร 15 บาท

แตกรายได้ ต้นทุน เริ่มใหม่ จำกัด เจ้าของแบรนด์ YUEDPAO ปีที่แล้ว กำไรโต 300%

แตกรายได้ ต้นทุน เฟิร์สคลาส อินโนเวชั่น จำกัด เจ้าของแบรนด์ Dr. Pong ปีที่แล้ว รายได้ 2,000 ล้าน

FAST RETAILING เจ้าของแบรนด์ UNIQLO เปิดร้านขายเสื้อได้ 100 บาท กำไรเข้ากระเป๋า 11 บาท

แตกรายได้ ต้นทุน ไปรษณีย์ไทย รายได้ 100 บาท เหลือกำไรบางเฉียบ 0.2 บาท

แตกรายได้ ต้นทุน LVMH อาณาจักรแบรนด์หรู จากฝรั่งเศส รายได้ 100 บาท เข้ากระเป๋าเกือบ 18 บาท

ธีรพรคลินิก คลินิกศัลยกรรม ที่เพิ่งเข้าตลาดหุ้น รายได้ 100 บาท มีกำไร 32 บาท

PM เจ้าของปลาสวรรค์ทาโร รายได้ 100 บาท มีกำไร 9 บาท

การท่าเรือแห่งประเทศไทย ผู้บริหารท่าเรือสำคัญ ของการนำเข้า-ส่งออกสินค้า รายได้ 100 บาท มีกำไร 41 บาท