ทุกคนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านจัดสรร หรือคอนโดฯ จะมีค่าใช้จ่ายประจำ ที่ต้องจ่ายให้กับนิติบุคคลของแต่ละโครงการอยู่

ค่าใช้จ่ายส่วนนี้เรียกว่า “ค่าส่วนกลาง”
ซึ่งห้องแต่ละแบบ หรือคอนโดฯ แต่ละโครงการ ลูกบ้านก็จะจ่ายไม่เท่ากัน

แล้วเคยสงสัยไหมว่า ทำไมแต่ละโครงการเก็บค่าส่วนกลางไม่เท่ากัน ?

MONEY LAB จะเล่าเรื่องการเงิน ที่โรงเรียนไม่เคยสอน ให้เข้าใจ

ตามปกติแล้ว แต่ละโครงการจะมีตารางการเรียกเก็บค่าส่วนกลางจากลูกบ้านที่แตกต่างกัน เช่น ทุก 3 เดือน, ทุก 6 เดือน หรือทุก 1 ปี

โดยค่าส่วนกลางนี้จะถูกนำไปใช้ในการบริหารจัดการโครงการ ซึ่งรวมไปถึงพื้นที่ส่วนกลาง เช่น สระว่ายน้ำหรือสนามเด็กเล่น
และยังมีการนำไปใช้จ่ายกับค่าสาธารณูปโภคพื้นฐาน, ค่าซ่อมบำรุงรักษา และค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรม อีกด้วย

ซึ่งวิธีคำนวณค่าส่วนกลางของคอนโดฯ และหมู่บ้านจัดสรรนั้น จะมีความแตกต่างกัน

โดยกรณีของคอนโดฯ นั้น จะคิดเป็นตารางเมตร ซึ่งจากข้อมูลสำรวจค่าส่วนกลางของโครงการในกรุงเทพฯ จะมีตั้งแต่ 30 บาท จนถึง 170 บาทต่อตารางเมตร

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคอนโดฯ A มีอัตราค่าส่วนกลาง 30 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน ลูกบ้านที่อยู่ห้องชุดขนาด 30 ตารางเมตร ก็จะต้องจ่ายค่าส่วนกลาง 900 บาทต่อเดือน

ส่วนกรณีของหมู่บ้านจัดสรรนั้น จะคิดเป็นตารางวา ซึ่งอาจมีตั้งแต่ 29 บาท ไปจนถึง 200 บาทต่อตารางวา

ยกตัวอย่างเช่น หมู่บ้านจัดสรร B มีอัตราค่าส่วนกลาง 50 บาทต่อตารางวาต่อเดือน ผู้อยู่อาศัยในบ้านพื้นที่ 100 ตารางวา ก็ต้องจ่ายค่าส่วนกลาง 5,000 บาทต่อเดือน

คำถามที่น่าสนใจคือ ทำไมค่าส่วนกลางแต่ละที่ถึงมีราคาไม่เท่ากัน ทำไมบางที่ถึงมีราคาถูก ขณะที่บางที่มีราคาแพง

ต้องบอกว่า เรื่องนี้เกิดจากหลายปัจจัย เริ่มตั้งแต่

จำนวนที่พักอาศัย

โครงการที่มีจำนวนที่พักอาศัยมาก ก็จะยิ่งมีตัวหารค่าใช้จ่ายรวมมากขึ้น จึงทำให้ค่าใช้จ่ายต่อตารางเมตร หรือตารางวานั้น มีแนวโน้มที่จะราคาถูกลง

จำนวนสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ

โครงการที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมาก ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ ที่จอดรถ สนามเด็กเล่น ก็จะมีค่าใช้จ่ายในการดูแลสูงตามไปด้วย ส่งผลให้ค่าส่วนกลางมีราคาสูงขึ้น

วัสดุ อุปกรณ์ในการก่อสร้างโครงการ

โครงการที่ใช้วัสดุและสิ่งอำนวยความสะดวกคุณภาพสูง ก็จะมีค่าบำรุงรักษาสูงตามไปด้วย ดังนั้น การจัดเก็บค่าส่วนกลางก็มีแนวโน้มที่จะสูงเช่นกัน

อ่านมาถึงตรงนี้ ก็อาจสรุปได้ว่า ค่าส่วนกลางของแต่ละโครงการอสังหาริมทรัพย์นั้น จะมีราคาไม่เท่ากัน จากปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นประเภทของโครงการ ขนาดของโครงการ หรือมูลค่าของโครงการ

ซึ่งผู้ที่กำลังมีแผนจะซื้อบ้านในหมู่บ้านจัดสรร หรือคอนโดฯ ควรพิจารณาค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ให้ดี ก่อนตัดสินใจซื้อเสียก่อน..

References
-https://www.ddproperty.com
-https://blog.propertyhub.in.th